โฮลิสต้า (ประเทศไทย) | HOLISTA

Fiber Detox ที่ดีและปลอดภัย ต้องเลือกยังไง

Fiber Detox ที่ดีและปลอดภัย ต้องเลือกยังไง

Fiber_Detox_Holista
fiber detox ที่ดีและปลอดภัยต่อการแก้อาการท้องผูก มีหลักง่ายๆ ที่ผู้บริโภคควรรู้เอาไว้

สิ่งแรกที่ทำเมื่อรู้สึกว่าปวดท้อง ท้องผูก ถ่ายไม่ค่อยออก คนส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกกินยาระบาย หรือยาถ่ายเพื่อแก้ท้องผูกให้ได้ผลเร็วทันใจที่สุดใช่มั้ยล่ะ ? แต่รู้หรือไม่ว่าจริงแล้วๆ Fiber Detox ก็สามารถช่วยแก้ท้องผูก แถมช่วยปรับการทำงานของลำไส้ ขับล้างสารพิษจากอวัยวะภายใน ให้ถ่ายคล่องขึ้น และหายจากอาการท้องอืด แน่นท้องได้ด้วยนะ ที่สำคัญยังฟื้นฟูลำไส้ให้ขับถ่ายง่ายขึ้นแบบคงที่ ไม่เป็นๆ หายๆแบบที่เคยเจอมา

แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องเลือก fiber detox ที่ดีและปลอดภัย หรือก็คือต้องเลือก fiber detox ที่วางใจได้และเห็นผลจริงเสียก่อน และควรเลือกที่ช่วยแก้อาการท้องผูกให้ดีขึ้นได้ด้วยสูตรธรรมชาติ จึงจะปลอดภัยและเห็นผลทันใจ ไม่ต้องรอนาน แล้วแบบนี้จะมีหลักในการเลือก fiber detox ที่ดีและปลอดภัยยังไงบ้าง ตามมาดูกัน

Fiber Detox คืออะไร? ใครควรกินบ้าง?

การ Detox คือการล้างลำไส้ เพื่อล้างสารพิษและเอาสิ่งสกปรกตกค้างต่างๆ รวมไปถึงเชื้อโรคในร่างกายออกไป ซึ่งในหลายๆ กรณีอาจไม่ได้รับการแนะนำให้ทำเป็นประจำเพราะเป็นผลเสียต่อร่างกาย เนื่องจากร่างกายเคยชินกับการได้รับการกระตุ้นที่ลำไส้ ดังนั้นหากวันใดหยุดกิน Detox ก็จะกลายเป็นภาวะท้องผูกวนไปไม่รู้จบ

รวมถึงหากดีท็อกซ์ในจำนวนที่บ่่อยเกินไปจะเป็นการลดปริมาณแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อลำไส้ออกไปด้วย ทำให้ร่างกายขาดแบคทีเรียกลุ่มดีในลำไส้ไปอีกเพราะงั้นทางที่ดีจึงควรใช้วิธีกินดีท็อกซ์แบบที่เป็นไฟเบอร์ หรือก็คือ fiber detox แทน เพื่อเน้นไปที่ทำให้มีกากในลำไส้เยอะขึ้น ส่งผลให้ขับถ่ายดีขึ้นนั่นเอง

Fiber_Detox_Holista

อย่าง Holista เองก็เป็น fiber detox ในรูปแบบชงดื่มที่มาช่วยแก้ปัญหาอาการท้องผูกได้อย่างลงลึกถึงต้นเหตุ เพราะ Holista Rebalance รวม Probiotic (โปรไบโอติกส์) หรือจุลินทรีย์ที่มีชีวิต เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ชนิดดี ไว้ด้วยกันกับ Prebiotic (พรีไบโอติกส์) หรือก็คืออาหารจำพวกหนึ่งที่ไม่มีชีวิต ร่างกายไม่สามารถดูดซึมได้ในลำไส้เล็ก แต่จะได้รับการย่อยสลายโดยแบคทีเรียโปรไบโอติกส์ในลำไส้ใหญ่ หากจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือพรีไบโอติกส์เป็นอาหารของโปรไบโอติกส์นั่นเอง

นอกจากนี้ Holista fiber detox ยังมี Plant Enzyme รวมอยู่ด้วย เมื่อโปรไบโอติกส์ พรีไบโอติกส์และ Plant Enzyme มาอยู่รวมกัน ก็ยิ่งป็นผลดีต่อระบบขับถ่ายและช่วยในการทำงานของลำไส้ได้อย่างดี Holista fiber detox จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีอาการท้องผูกหรือกรดไหลย้อน และคนที่ต้องการล้างสารพิษในร่างกาย รวมถึงต้องการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ดูแลรูปร่างให้สมส่วน ผิวพรรณดี โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะไปทำลายระบบการทำงานต่างๆ ในร่างกายให้เสียสมดุลเลย

แต่ข้อมูลเพียงเท่านี้ อาจยังไม่ควรตัดสินว่าเป็น fiber detox ที่ดีและปลอดภัยแล้วเพราะหากจะให้วางใจได้จริงๆ ควรดูเกณฑ์อื่นๆ ประกอบไปพร้อมกันด้วย

Fiber Detox ที่ดีและปลอดภัย เลือกยังไงดี ?

Fiber detox ที่ว่าดีและปลอดภัย ยังควรมีรายละเอียดที่เปิดเผยให้เห็นตั้งแต่ส่วนผสม, มาตรฐานการรับรอง, คุณสมบัติที่สมเหตุสมผล เป็นจริง, และมีรีิววจากผู้ใช้จริงมาสนับสนุนด้วย ซึ่ง Holista Fiber Detox เองก็สามารถทำให้เราวางใจได้ครบ

ดูจากส่วนผสม

ส่วนผสมหลักๆ ของ fiber detox ที่ดีควรมีกากใยอาหาร มีส่วนผสมที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ รวมถึงมีจุลินทรีย์ชนิดดี และไม่ควรที่จะมีส่วนผสมของยาระบาย เพราะไม่เช่นนั้นก็จะไม่ต่างอะไรจาก detox ทั่วไปที่กระตุ้นลำไส้เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ช่วยปรับสมดุลในลำไส้อย่างที่ควรจะเป็น

Holista fiber detox
Holista fiber detox
Holista fiber detox
Holista fiber detox

สำหรับ Holista fiber detox เองเปิดเผยให้เห็นส่วนผสมอย่างชัดเจนว่ามี ไฟเบอร์ เอนไซม์ธรรมชาติ จุลินทรีย์ตัวดีอย่างโปรไบโอติกส์ รวมถึงพรีไบโอติกส์และสารสกัดจากธรรมชาติ 100% อีก 20 ชนิด อาทิ ทับทิม, เมลอน, อเซโรล่า เชอร์รี่, เปลือกและเมล็ดองุ่น, ขมิ้น, แครนเบอร์รี่, Co Q10, L-Glutathione, ฯลฯ โดยส่วนผสมทั้งหมดนี้ไม่ได้มีฤทธิ์เป็นยาระบาย แต่เป็นกากใยอาหารธรรมชาติ เมื่อดื่มแล้วจงไม่ทำให้ปวดบิด ไม่ถ่ายเหลวแบบไร้มวล และไม่ต้องถ่ายหลายๆ รอบเหมือนคนท้องเสีย แต่กลับให้อุจจาระที่นุ่มฟู มีมวล บ่งบอกถึงสุขภาพลำไส้ที่ดีมากกว่า

ดูคุณสมบัติ

Fiber detox ที่ดีและปลอดภัยยังควรที่จะบอกรายละเอียดของตคุณสมบัติให้ชัดเจน ว่าเมื่อดื่มแล้วจะช่วยแก้เรื่องใดได้บ้าง เพื่อจะได้ให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อได้ตรงกับที่ใจต้องการ ตรงกับอาการที่เป็นอยู่ได้มากที่สุด

Fiber_Detox_Holista
Fiber_Detox_Holista

อย่าง Holista Fiber Detox ก็บอกไว้อย่างชัดเจนว่ามีคุณสมบัติมากมาย ตั้งแต่

– ช่วยแก้อาการท้องผูกได้ลึกถึงต้นตอของปัญหา
– ช่วยให้อุจจาระนุ่มขึ้น ขับถ่ายง่าย โล่งสบายท้อง
– ปรับสมดุลลำไส้อย่างเป็นธรรมชาติ
– ช่วยลดแก๊สในกระเพาะอาหาร
– บรรเทาอาการกรดไหลย้อน
– ช่วยขับล้างสารพิษที่ตกค้างในลำไส้ ในเลือด และในตับ
– ช่วยให้เลือดไหลเวียนดียิ่งขึ้น
– ช่วยบล็อคแป้งและไขมัน
– ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก สามารถดื่มแทนอาหารมื้อเย็นได้
– ช่วยรักษาอาการสิวเรื้อรังที่ใบหน้าและที่หลัง
– ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง แลดูอ่อนเยาว์

เมื่อโฮลิสต้า ไฟเบอร์ ดีท็อกซ์ บอกสรรพคุณไว้ขนาดนี้จึงเป็นธรรมดาที่ทำให้เรารู้สึกว่าน่าจะช่วยแก้ปัญหาที่ต้องการแก้ได้อย่างตรงจุดจริงๆ นั่นเอง

ดูจากมาตรฐาน การรับรอง

การรับรองพื้นฐานที่ fiber detox ควรมีมากที่สุดคือมี อย. ถูกต้อง และผ่านมาตรฐานจากวงการการวิจัยเพื่อช่วยยืนยันว่าเป็นส่วนผสมที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพจริงๆ

ท่าโยคะ_แก้ท้องผูก_Holista
สินค้าโฮลิสต้าจำหน่ายในโรงพยาบาลชั้นนำ แนะนำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และ เภสัชกร

ซึ่ง Holista Rebalance (โฮลิสต้า รีบาลานซ์) ก็มีส่วนผสมสกัดจากธรรมชาติ 100% มี อย. รับรองถูกต้องปลอดภัย มีผลวิจัยรองรับส่วนผสมจาก Wageningen Academic Publishers ที่สหรัฐอเมริกา ผ่านมาตรฐาน GMP และ HACCP ระดับสากล

ดูรีวิวจากผู้ใช้จริง

ข้อสุดท้าย สำคัญมากในยุคปัจจุบันนั่นคือหากจะเช็ค Fiber Detox ที่ดีและปลอดภัย ควรดูรีวิวจากผู้ใช้จริงประกอบด้วย โดยอาจ research ข้อมูล จากอินเทอร์เน็ต หรือจะสอบถามจากคนใกล้ชิด หรือผู้ที่เคยกิน fiber detox นั้นๆ มาจริงๆ รวมๆ กัน เรียกได้ว่าข้อมูลเยอะๆ เหลือๆ ไว้ดีกว่าขาดนะ

Fiber_Detox_Holista

สำหรับ Holista Fiber Detox เองก็มีรีวิวจากผู้ใช้จริงมากมาย และส่วนใหญ่ก็เป็นฟีดแบ็คในทางบวกว่า fiber detox ตัวนี้ช่วยแก้อาการท้องผูกได้ด้วยวิธีแบบธรรมชาติ ปรับสมดุลลำไส้ได้จริง และช่วยฟื้นฟูระบบย่อยอาหารอีกด้วย ซึ่งผู้ใช้จริงส่วนใหญ่ยังชื่นชอบที่โฮลิสต้าเป็น fiber detox ที่ไม่ได้ทำหน้าที่เหมือนดีท็อกซ์ทั่วไป คือกระตุ้นลำไส้ให้ขับถ่ายเพียงอย่างเดียว ทำให้ไม่ปวดบิดที่ลำไส้ อุจจาระนิ่ม ถ่ายง่าย แต่ก็ไม่เหลวแบบไร้มวล ไม่ต้องขับถ่ายหลายรอบและสามารถทานได้อย่างต่อเนื่อง แม้หยุดกินก็ไม่กลับมาท้องผูกอีก รวมถึงอาการปวดมวนในท้อง ท้องอืดก็หายไปด้วย
รีวิว ดีท็อกซ์แบบชง ที่ฮิตที่สุดในตอนนี้
รีวิว อาหารเสริมดีท็อกซ์ แบรนด์ HOLISTA (โฮลิสต้า)

Holista Fiber Detox ตัวเลือกที่ดีและปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีอาการท้องผูก

Fiber_Detox_Holista
เมื่อเลือก fiber detox ที่ดีและปลอดภัยตามที่ต้องการได้แล้วก็ไปเตรียมมีสุขภาพที่ดีกันได้เลย

หลังจากเช็คข้อมูล และ research กันมาแล้วจะเห็นได้ว่า Holista Fiber Detox เองก็เป็นตัวเลือกที่ดีและปลอดภัย น่าลองใช้เพื่อแก้อาการท้องผูก ฟื้นฟูระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหารให้ดีขึ้นได้อีกทางหนึ่ง

หากใครที่มีอาการท้องผูก หรือเพียงอยากฟื้นฟูระบบขับถ่าย ระบบย่อยอาหาร และปรับสมดุลในร่างกาย ให้อวัยวะภายในต่างๆ ทำงานได้ดีจากภายใน มาจนถึงผิวพรรณสดใสภายนอกก็ลองหา Holista Fiber Detox มาดื่มกันดูได้ โดยโฮลิสต้า 1 กล่องจะมี 7 ซอง เลือกดื่มเพียงวันละซองก่อนนอน ต่อเนื่องกันเป็นประจำ เมื่อเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น อาการท้องผูกหายไป เข้าห้องน้ำเองได้แม้ไม่ได้ดื่ม fiber detox นี้ก็ค่อยดื่มตามวิถีชีวิตปกติ หรือหากบางวันลืมกินไปบ้างก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะลำไส้ปรับสมดุลได้ พร้อมสร้างสุขภาพดีแบบยั่งยืนให้กับคุณแล้ว

อย่าลืมว่า fiber detox ที่ดีและปลอดภัยในท้องตลาดมีอยู่เยอะแยะมากมาย เพียงแต่ผู้บริโภคเองต้องคอยตรวจสอบ ค้นคว้าหาข้อมูลของดีท็อกซ์นั้นๆ ให้ถี่ถ้วนก่อนใช้ทุกครั้ง ไม่ต้องรีบร้อน แล้วเราก็จะได้เจอกับ fiber detox ที่เหมาะสมกับเรา พร้อมให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าเกินราคาแน่นอน ‘ไฟเบอร์ดีท็อกซ์ ของดีต้องบอกต่อ

ยิ่งกิน ยิ่งดีต่อลำไส้! ชวนดู 9 เมนูที่มี ‘Prebiotic’ (พรีไบโอติก) สูง

ยิ่งกิน ยิ่งดีต่อลำไส้! ชวนดู 9 เมนูที่มี ‘Prebiotic’ (พรีไบโอติก) สูง

เราเชื่อว่า ‘ อาหารการกิน ’ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญสุดๆ อย่างหนึ่งสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัยเลยนะคะ
เพราะว่าอาหารแต่ละอย่างที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละมื้อ นอกจากจะช่วยเติมพลังงาน ทำให้รู้สึกอิ่มท้อง แล้วยังส่งผลต่อระบบต่างๆ ภายในร่างกายได้ด้วยนะ โดยเฉพาะใครที่ชอบมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องระบบการย่อยอาหาร ไปจนถึงระบบขับถ่าย เช่น อาการท้องอืด / ท้องผูก / ขับถ่ายไม่สม่ำเสมอ (10 อาหารแก้ท้องผูก ช่วยขับถ่าย ไม่ว่าธาตุหนักหรือเบาก็เอาอยู่) ฯลฯ ก็ยิ่งต้องใส่ใจ ให้ความสำคัญ และพิถีพิถันในการเลือกรับประทานอาหารให้มากขึ้นกว่าปกติ
แล้วถ้าใครที่เป็นสายสุขภาพตัวจริง ก็คงต้องเคยได้ยินคำว่า ‘ Prebiotic ’ หรือ ‘ พรีไบโอติก ’ (ลดพุง ดีท็อกลำไส้! เลือกกิน ‘ Probiotic ’ และ ‘ Prebiotic ’ อย่างไร ให้ถูกวิธีและเห็นผล?) กันมาบ้างแล้วแน่นอนเลยใช่มั้ยคะ? ซึ่งเจ้า ‘Prebiotic’ ตัวนี้แหละค่ะ ที่จะมาเป็นตัวช่วยตัวดีสำหรับใครก็ตามที่มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ ช่วยปรับสมดุลให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ทำความรู้จักว่า ‘ พรีไบโอติก ’ ( Prebiotic ) คืออะไร ?

พรีไบโอติก ’ ( Prebiotic ) คืออะไร
พรีไบโอติก ’ ( Prebiotic ) คืออะไร

อ๊ะ! ก่อนที่จะตามไปดูว่าจะหา ‘ Prebiotic ’ ทานได้จากที่ไหนบ้าง? เราก็ขออาสาพาทุกคนมาทำความรู้จักเจ้า ‘ พรีไบโอติก ’ ให้มากขึ้นกันอีกสัดนิดนึงก่อนดีกว่านะคะ
Prebiotic’ ก็คือสารชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถย่อยหรือดูดซึมได้ในระบบทางเดินอาหาร แต่เมื่อทานเข้าไปแล้ว พรีไบโอติกจะสามารถเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ และถูกย่อยสลายด้วยโปรไบโอติก ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ในลำไส้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแบบสุดๆ นั่นเองค่ะ หรือถ้าจะให้อธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ เลยก็คือ ‘พรีไบโอติก’ เป็นอาหารชั้นดีของ ‘โปรไบโอติก’ ที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและการทำงานของจุลินทรีย์ตัวดี ช่วยทำให้การดูดซึมของลำไส้ และระบบย่อยอาหารทำงานได้เต็มที่และมีประสิทธิภาพขึ้น เลยหมดปัญหาท้องผูกไปได้แบบเห็นผลดียังไงล่ะ

Prebiotic ’ มีประโยชน์ต่อร่างกายยังไงบ้าง ?

ส่องประโยชน์ของ Prebiotic (พรีไบโอติก)
ส่องประโยชน์ของ Prebiotic (พรีไบโอติก)

แหมๆ พอได้รู้จักเจ้า ‘Prebiotic’ กันไปแล้ว หลายๆ คนก็คงจะเริ่มเห็นถึงประโยชน์ของสารอาหารชนิดนี้มากกว่าขึ้นเดิมแล้วใช่มั้ยคะ? แต่เราต้องขอบอกเอาไว้ตรงนี้เลยนะว่าจริงๆ แล้ว ‘พรีไบโอติก’ เนี่ย ไม่ได้มีดีแค่เรื่องของการทำหน้าที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของจุลินทรีย์โปรไบโอติก ในระบบทางเดินอาหารหรือล้ำไส้ใหญ่อย่างเดียวเท่านั้นนะคะ
เพราะว่า ‘Prebiotic’ ยังเป็นสารอาหารสำคัญ ที่ช่วยให้สามารถฟื้นฟูและปรับสมดุลลำไส้อย่างได้เต็มศักยภาพ ช่วยดีท็อกล้างสารพิษในร่างกาย ดูดซับสิ่งสกปรกและสารพิษต่าง ๆ ในลำไส้ เพื่อขับออกมาพร้อมกับอุจจาระในแต่ละวัน ช่วยทำให้รู้สึกโล่งท้องหลังขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย แบบนี้เลยช่วยขจัดอาการท้องผูกให้หายได้ง่ายๆ เลยล่ะ ที่สำคัญพอเราสามารถขับของเสียต่างๆ ไม่ให้หลงเหลือตกค้างอยู่ภายใน ก็จะช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น งานนี้ก็ได้ของแถมมาเป็นผิวพรรณที่ดูเปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์ สดใส แบบไร้สิวอุดตันกวนใจทั้งบนใบหน้าและหลังได้อีกต่างหากนะ

แนะนำ 9 เมนูอาหาร ที่มี ‘ Prebiotic ’ สูง

prebioticคืออะไร_พรีไบโอติก_Prebiotic
Cr : https://i.pinimg.com/564x/95/ea/17/95ea17f531d617c93ccf0bf9afd08e64.jpg

ร่างกายของคนเราเวลาที่ให้งานมาอย่างหักโหม ก็อาจจะเกิดอาการพังเสียหายได้ แบบนี้คนเราเลยควรที่จะต้องหมั่นใส่ใจดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรงทั้งภายในและภายนอก ฉะนั้นการเลือกทานอาหารที่มี ‘Prebiotic’ สูงๆ เลยถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะชะล้างสารพิษต่างๆ ไปพร้อมกับการปรับสมดุลระบบภายในร่างกาย ให้กลับมาทำงานได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพอีกครั้ง รู้แบบนี้แล้วถ้าใครไม่อยากปล่อยให้ร่างกายเสียสมดุล จนส่งผลกระทบร้ายๆ ต่อทั้งสุขภาพและผิวพรรณ ก็ต้องรีบตามเรามาดู 9 เมนูอาหาร ที่มี ‘ Prebiotic ’ สูง แล้วรีบไปหาซื้อมาทานกันด่วนๆ เลยค่ะ
(1) หอมใหญ่
รู้รึเปล่าคะว่านอกจากคนจะนิยมนำ ‘หอมใหญ่’ ไปใช้เป็นส่วนประกอบในสารพัดเมนูอาหารแสนอร่อยแล้ว เจ้าหอมหัวใหญ่ยังเป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญมากมาย ที่ช่วยทำให้ผิวพรรณดูสดใสขึ้น แถมยังมีพรีไบโอติกที่ช่วยทำให้เราขับถ่ายคล่องและสบายอีกด้วยนะ
(2) กระเทียม
เจ้าสมุนไพรที่มีกลิ่นและรสชาติที่แรงเด่นเป็นเอกลักษณ์อย่าง ‘กระเทียม’ ไม่ได้มีไว้ใส่ในอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติและความเผ็ดร้อนเท่านั้นนะ แต่ทานเข้าไปแล้วยังช่วยลดอาการท้องผูก ช่วยขับลม แก้อาการจุกเสียดแน่นท้อง และทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นด้วยนะคะ
(3) หน่อไม้ฝรั่ง
ใครที่ชอบทาน ‘หน่อไม้ฝรั่ง’ เป็นประจำ ก็จะได้รับสารอาหารและคุณประโยชน์จากผักชนิดนี้ไปเต็มๆ เลยล่ะ เพราะหน่อไม้ฝรั่งมีกากใยอาหารสูง เลยช่วยในเรื่องการกระตุ้นระบบขับถ่ายได้ดี แถมยังมาพร้อมแคลอรี่ที่น้อยมากๆ เลยสามารถทานเข้าไปได้เพลินๆ แบบไม่ต้องกลัวอ้วนเลยล่ะ
(4) ถั่วเหลือง
เมนู ‘ถั่วเหลือง’ ที่เราคุ้นเคยกัน ไม่ว่าจะเป็น นมถั่วเหลือง / น้ำเต้าหู้ / ขนมหวานที่ทำจากถั่วเหลือง ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นเมนูสุขภาพที่ทั้งรสชาติอร่อยถูกปาก แถมยังดีต่อร่างกายสุดๆ เลยล่ะ เพราะในถั่วเหลืองมีไฟเบอร์ในปริมาณมาก เลยช่วยกระตุ้นระบบการขับถ่ายให้ทำงานได้อย่างเต็มที่
(5) กะหล่ำปลี
สำหรับใครที่โดนอาการท้องผูกเล่นงานอยู่บ่อยๆ เราก็ขอแนะนำให้หันมาเลือกทานเมนู ‘กะหล่ำปลี’ เข้าไปเยอะๆ เลยค่ะ เพราะกะหล่ำปลีมีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร และล้างสารพิษในลำไส้ เลยส่งผลให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องทนแน่นท้องอีกต่อไป
(6) แอปเปิ้ล
เจ้า ‘แอปเปิ้ล ’ หลากสีที่หลายคนเลือกทานเป็นเมนูสำหรับลดน้ำหนัก หรือทานเพื่อเพิ่มพลังผิวสวยเปล่งประกายจากสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว แอปเปิลยังมีแบคทีเรียดีที่สำคัญต่อจุลินทรีย์ในลำไส้ ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ให้สามารถดูดซึมอาหารและสิ่งตกค้างออกจากร่างกายได้ดีขึ้น
(7) กล้วย
ถ้าพูดถึงเรื่องอาหารที่ดีต่อระบบขับถ่าย แล้วจะไม่พูดถึงเมนูผลไม้ยอดฮิตอย่าง ‘กล้วย’ ได้ยังไงล่ะคะ ก็เพราะกล้วยอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่สำคัญต่อร่างกายของคนเรา อีกทั้งยังมีไฟเบอร์จำนวนมหาศาล ที่ช่วยรักษาอาการท้องผูกและกระตุ้นการขับถ่ายได้
(8) มะเขือเทศ
ต่อด้วยเมนูสารพัดประโยชน์อย่าง ‘มะเขือเทศ’ ลูกสีแดงสดน่ากินกันบ้างดีกว่าค่ะ เจ้ามะเขือเทศที่หลายคนนิยมทานกัน ก็อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย แถมยังมีสรรพคุณในการรักษาโรคได้อีกด้วยนะ ใครที่ทานมะเขือเทศเป็นประจำ ก็จะทำให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายดีขึ้น
(9) โยเกิร์ต
ปิดท้ายด้วยเมนูเฮลท์ตี้สำหรับคนที่อยากมีสุขภาพดี อย่าง ‘โยเกิร์ต’ เลยละกันนะคะ เจ้าโยเกิร์ตที่รสชาติอร่อยละมุนลิ้นเนี่ย ถือเป็นตัวช่วยชั้นดีในการช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย ทำให้เรากลายมาเป็นคนที่กินง่ายถ่ายคล่องขึ้นนั่นเอง

~ ‘ HOLISTA ’ ปรับสมดุลระบบร่างกาย ด้วย Prebiotic & Probiotic’ ~

prebiotic คืออะไร_พรีไบโอติก_Prebiotic_HOLISTA
prebiotic คืออะไร_พรีไบโอติก_Prebiotic_HOLISTA

แล้วถ้าใครกำลังมองหาทางเลือกที่ง่าย สะดวก และได้ประสิทธิภาพไม่แพ้การทานอาหารที่มี ‘Prebiotic’ สูงทั้งหลาย วันนี้เราก็ไม่พลาดที่จะหยิบตัวช่วยดีๆ มาบอกต่อความเฮลท์ตี้กันด้วยล่ะ กับ ‘HOLISTA Probiotic Fiber Detox’ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ที่รวมทั้ง ProbioticPrebiotic และ Plant Enzyme เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมด้วยสารสกัดสำคัญอีก 9 ชนิด ทั้งทับทิม, เมลอน, อโซโรล่า เชอร์รี่, แครนเบอร์รี่, เมล็ดองุ่น, ชาเขียว, Co Q10, L-Glutathione และ Pine Bark เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบลำไส้และระบบย่อยอาหาร แบบลงลึกถึงต้นเหตุของปัญหา ส่งผลให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน

prebioticคืออะไร_พรีไบโอติก_Prebiotic_HOLISTA
prebioticคืออะไร_พรีไบโอติก_Prebiotic_HOLISTA

เพียงแค่รับประทาน ‘HOLISTA Probiotic Fiber Detox’ วันละ 1 ซอง ในช่วงเวลาก่อนเข้านอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง โดยฉีกซองผสมน้ำธรรมดาหรือน้ำเย็น ปริมาณ 150 – 200 มล. คนให้เข้ากันแล้วดื่มทันที จากนั้นก็ดื่มน้ำเปล่าตามอีก 1 แก้ว ก็จะช่วยดีท็อกลำไส้ให้ขับถ่ายได้ดีในช่วงเช้า ทำให้รู้สึกโล่งท้องสบายตัวได้แบบเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทานเลยค่ะ
・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・
เป็นยังไงกันบ้างคะ? หลังจากที่ได้ลองอ่านบทความนี้กันไปแล้ว หลายคนก็คงจะรู้ถึงคุณประโยชน์ของ ‘Prebiotic’ (ลดพุง ดีท็อกลำไส้! เลือกกิน ‘Probiotic’ และ ‘Prebiotic’ อย่างไร ให้ถูกวิธีและเห็นผล?) ที่ดีต่อทั้งร่างกายและสุขภาพกันไปแล้วแน่นอนเลย เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากจะเริ่มต้นดูแลสุขภาพของตัวเอง ตั้งแต่ภายในออกมาสู่ภายนอก ก็อย่าลืมเลือกทานอาหารที่มีพรีไบโอติกสูงให้มากขึ้นด้วยล่ะ หรือถ้าอยากจะเน้นความง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ก็ลองเลือก ‘HOLISTA Probiotic Fiber Detox’ มาเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยปรับสมดุลร่างกายให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพขึ้นด้วยนะคะ รับรองว่าใครได้ลองแล้วจะต้องติดอกติดใจกันทุกรายแน่ๆ

แจกสูตรเด็ด ดีท็อกลำไส้ ล้างสารพิษ ด้วย HOLISTA

แจกสูตรเด็ด ดีท็อกลำไส้ ล้างสารพิษ ด้วย HOLISTA

เชื่อว่าหลายคนคงมีคำถามว่าเราจะทำการ ดีท็อกลำไส้ ไปทำไมเมื่อปกติคนเราควรขับถ่ายให้ได้ทุกวันเป็นอย่างน้อยอยู่แล้ว หรือขับถ่ายได้เองตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่อยากให้ลองตั้งคำถามดูว่า เคยมั้ยที่คุณไม่สามารถขับถ่ายได้ทุกวัน เคยมั้ยที่คุณขับถ่ายไม่เป็นเวลา เมื่อต้องจะปวดท้องบิดเสมอ เนี่ยแหละค่ะ คุณได้เริ่มเข้าข่ายเผชิญปัญหา อาการท้องผูก ระยะเริ่มต้นแล้วแหละ

ทำไมเราถึงต้อง มีตัวช่วย ดีท็อกลำไส้ ??

สูตรดีท็อกลำไส้_ดีท็อกลำไส้_Holista
ตอบคำถาม ดีท็อกลำไส้ ไปทำไม?

อย่างที่บอกว่า เมื่อไม่ถ่าย แล้วจะเกิดอาการท้องผูก แต่อาการท้องผูกก็ไม่เพียงแค่ ทานยาถ่ายแล้วจะหายได้เลยทันที แต่ยังมีของเสียส่วนอื่นๆ ที่ยังอาจจะไปสะสมอยู่ลำไส้ของคุณได้ อาจจะฟังดูเกินจริงไปหน่อย แต่แค่เฉพาะพื้นผิวลำไส้เล็ก ก็มีขนาดถึง 250 ตารางเมตร หรือเท่ากับความยาวของสนามเทนนิส 2 สนามเลยนะคะ เมื่ออยู่ในช่องท้องของเราจะมีรูปทรงหดย่นพับไปพับมา และเต็มไปด้วยซอกมากมาย และซอกตามรอยพับนี่แหละค่ะ ที่เป็นแหล่งสะสมของ “ตะกรันลำไส้” ที่เกิดจากการทานอาหารมันๆ ย่อยยาก รวมถึงอุจจาระเก่าที่ตกค้างจากการขับถ่ายไม่เป็นเวลา โดยสิ่งตกค้างเหล่านี้ สามารถสะสมอยู่ในลำไส้ของเราได้หลายกิโลกรัมเลยทีเดียวค่ะ

ซึ่งทั้งหมดนี้ก็อาจจะกลายเป็นต้นเหตุที่ก่อให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมาอย่างที่เรา อาจจะคาดไม่ถึงเลยก็ได้ นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหลักที่ทำไมคนเราถึงต้องทำการขจัดสารพิษและสิ่งแปลกปลอมออกไปจากร่างกาย ด้วยการทำ ดีท็อกลำไส้ นั่นเองค่ะ และนอกจากนี้ประโยชน์ของการดีท็อกลำไส้ ทำให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง นอกจากจะช่วยทำความสะอาดสารพิษที่เกาะอยู่บริเวณผนังลำไส้ และขับสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกายได้แล้ว การดีท็อกลำไส้ ก็ยังช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยทำให้อารมณ์ดี มีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น ช่วยลดน้ำหนักตลอดจนอาจจะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งลำไส้ได้ด้วย เช่นกันค่ะ

แจกสูตรเด็ด ดีท็อกลำไส้ ล้างสารพิษ

รู้แบบนี้แล้วยังอยู่เฉยนิ่งนอนใจไม่ได้แล้วล่ะค่ะ เหมือนกับคำว่า ‘ กันไว้ดีกว่าแก้ ’ ยังใช้ได้ผลเสมอ มา ‘กัน’ ด้วย ดีท็อกก่อนต้องไป ‘แก้’ กันที่โรงพยาบาล ดีกว่าเนอะ และสำหรับใครที่มองหา ดีท็อกลำไส้ดีๆ ซักตัว เพื่ออยากจะเอาไว้ล้างสารพิษในร่างกายแล้วล่ะก็ รอบนี้เราจึงอยากจะมาแจก สูตรเด็ด ดีท็อกลำไส้ด้วยอาหารเสริม

หรือการดีท็อกลำไส้ด้วยวิธีรับประทานอาหารเสริมเพื่อช่วยให้ขับของเสียที่อยู่ภายในลำไส้ออกมาสำหรับเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหา ถ่ายยาก ท้องผูกเรื้อรัง ถ่ายไม่เป็นเวลา หรือไม่เคย ดีท็อกลำไส้ มาก่อนเลย ถ้าอยากให้ปัญหาดังกล่าวหมดไปตามมาดูกันเลย

สูตรดีท็อกลำไส้ ‘ HOLISTA Probiotic Fiber Detox ’

สูตรดีท็อกลำไส้_ดีท็อกลำไส้_ดีท็อกHolista
‘ HOLISTA Probiotic Fiber Detox ’ ตัวช่วยดีท็อกลำไส้ ล้างสารพิษต่างๆ ที่สะสมภายในร่างกายไปพร้อมๆ ปรับสมดุลระบบภายในร่างกายให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

และนี่ก็คือ สูตรเด็ด ที่ช่วยในการ ดีท็อกลำไส้ ‘ HOLISTA Probiotic Fiber Detox ’ อาหารเสริม ที่กำลังเป็นที่นิยมมากในตอนนี้เลย ตัวนี้ต้องบอกก่อนว่าเป็นอีกหนึ่งตัวที่ได้รับการรับรองแล้วว่า สามารถช่วยดีท็อกลำไส้ ล้างสารพิษต่างๆ ที่สะสมภายในร่างกายไปพร้อมๆปรับสมดุลระบบภายในร่างกายให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพจริง แถมเค้ามีผลวิจัยรับรองส่วนผสมจาก Wageningen Academic Publishers จากประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าส่วนผสมต่างๆ ที่สกัดจากธรรมชาติ 100% และมี อย. รับรองอย่างถูกต้องแถมยังผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากลแล้วอีกด้วย มีวางขายตามร้านขายแนะนำทั่วไป มั่นใจหายห่วงได้เลย หรือใครที่กำลังกลัวหรือห่วงเรื่องสารตกค้างหรือสิ่งแปลกปลอมๆ ต่างๆ รับรองได้ว่าไม่มี และสามารถทานได้จริง ไม่มีอันตรายต่อสุขภาพของเราแน่นอนค่ะ

ทำไมต้อง HOLISTA Probiotic Fiber Detox เท่านั้น

สูตรดีท็อกลำไส้_ดีท็อกลำไส้_ดีท็อกHolista_Probiotic
HOLISTA Probiotic Fiber Detox สูตรดีท็อกลำไส้

แต่เค้าไม่ได้มีดีแค่เรื่องความปลอดภัยเพียงเท่านั้นเพราะสำหรับ ‘HOLISTA Probiotic Fiber Detox ด้วยความที่เค้ามีส่วนผสมที่แน่นไปด้วยสรรพคุณที่ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายอยู่เยอะมากไม่ว่าจะเป็นอย่าง Probiotic

จุลินทรีย์นำเข้าจากสหรัฐอเมริกาที่ช่วยฟื้นฟูระบบขับถ่ายและปรับสมดุลลำไส้ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังไม่หมดเพียงแค่นั้นเค้ายังผสานพลังแบบอัดแน่นมาให้พร้อมกับ สารสกัดสำคัญจากธรรมชาติ เช่น ทับทิม, เมลอน, อโซโรล่า เชอร์รี่, แครนเบอร์รี่, เมล็ดองุ่น, ชาเขียว, Co Q10, L-Glutathione และ Pine Bark รวมๆ แล้วมีสารสกัดพรีเมี่ยมที่อัดแน่นกันมากว่า 20 ชนิดเลย ฯลฯ

เจาะลึกส่วนผสมตัวเด็ด ใน HOLISTA ช่วยล้างสารพิษ

Probiotic

จะไม่ให้พูดถึงส่วนผสมหลักที่ชูโรง ให้จนกลายมาเป็น ดีท็อกลำไส้ ล้างสารพิษ ขึ้นชื่อ ของ HOLISTA เลยไม่ได้ค่ะ นั่นก็คือ เจ้าตัว PROBIOTIC จุลินทรีย์ตัวสำคัญ สายพันธุ์ Bacillus Coagulans ตัวนี้เนี่ยแหละค่ะ ซึ่งเป็นสายพันธุ์พิเศษ ที่ทาง HOLISTA เค้าได้คัดสรรมาจากจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเลือกตัวที่มีผลวิจัยแล้วว่ามีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูระบบลำไส้ได้มากกว่า PROBIOTIC ทั่วไป ถึง 90% เลย ซึ่งจุลินทรีย์ชนิดนี้มีประสิทธิภาพมากกว่าจุลินทรีย์ในโยเกิร์ตถึง 100 เท่าเลยทีเดียวนะ โดยหน้าที่เจ้าจุลินทรีย์ตัวนี้ ก็คือจะมาช่วยทำหน้าที่เหมือนเกราะเคลือบจุลินทรีย์ ให้สามารถผ่านน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร เพื่อเข้าไปปรับสมดุลลำไส้ เรียกได้ว่าช่วยให้การดีท็อกได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง จนได้เป็นกลายสูตรเฉพาะของ HOLISTA เค้าเลย

Prebiotic

ตัวนี้เป็นสกัดจาก Acacia เป็นอาหารที่ช่วยบำรุงจุลินทรีย์ให้สามารถฟื้นฟูลำไส้ได้เต็มศักยภาพ แถมยังช่วยในการดูดซับสิ่งสกปรกและสารพิษต่างๆ ในลำไส้ ให้ขับออกมาในแต่ละวัน จึงช่วยให้ลำไส้คุณสะอาดขึ้นและรู้สึกได้ถึงความโล่ง สบายท้อง หลังจากได้ขับถ่ายแล้วนั่นเอง

Plant Enzyme

เอนไซม์ธรรมชาติที่สกัดจาก Golden Kiwi ช่วยกระตุ้นระบบการย่อยและทำให้การดูดซึมอาหารทำงานได้ดีขึ้น และยังช่วยลดสาเหตุของอาการท้องอืดและกรดไหลย้อน ที่เกิดจากอาหารไม่ย่อยได้

Chlorophyll

สกัดจาก Alfalfa และ Wheatgrass ช่วยดีท็อกลำไส้ ขับสารพิษในเลือด ส่งผลทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้เลือดที่สะอาดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย และทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่ายิ่งขึ้น

Antioxidant

สารต่อต้านอนุมูลอิสระสกัดจากทับทิมและเชอร์รี่ สารสกัดนี้มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ เลยส่งผลข่วยปรับให้ผิวพรรณที่เคยหมองคล้ำ ไม่สดใส หรือรวมไปถึงผู้ที่มีปัญหาสิวต่างๆ ให้ลดลงได้ ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และอ่อนว่าวัยลงได้อีกด้วย

สูตรดีท็อกลำไส้_ดีท็อกลำไส้_ดีท็อกHolista_Probiotic
Antioxidant

แจกสูตรดีท็อกลำไส้สูตรเด็ดกันไปแบบเน้นๆเลยกับสูตรดีท็อกลำไส้จาก HOLISTA Probiotic Fiber Detox ที่เราเอามาแนะนำให้กันรอบนี้ เป็นยังไงบ้าง ถูกใจกันมั้ยเอ่ย ของดีๆ ที่นอกจากจะแก้ปัญหาท้องผูก ขับถ่ายไม่เป็นเวลา ปวดบิด รวมไปถึงปัญหาเกี่ยวระบบขับถ่ายต่างๆ ได้อย่างตรงจุดแล้ว ก็ยังมีผลพลอยได้จากส่วนผสมอื่นๆ อีกด้วยนะ ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้แข็งแรงรวมอยู่อีกด้วยนะ เรียกได้ว่า ประโยชน์สองเด้งไปเลย ได้ทั้งสุขภาพที่ดีคืนมา และยังผิวสวยผุดผ่องกันตั้งแต่ตั้งแต่ภายในไปจนถึงภายในไปพร้อมๆ กันเลย

แบบนี้ยิ่งต้องมีไว้ติดไว้ซักคนละสองสามกล่องแล้วแหละค่ะว่ามั้ย? อย่าปล่อยให้ความเคยชินและความละเลย ทำร้ายสุขภาพที่มีค่าของเราไป แค่ปัญหาเล็กๆ อย่างปัญหาท้องผูก ธรรมดา อาจจะจนกลายเป็น ท้องผูกเรื้อรัง และที่อันตรายไปกว่านั้นก็คือ พวกส่ิงตกค้างต่างๆ ที่สะสมอยู่ในลำไส้ที่หมักหมกจนกลายเป็นต้นเหตุของมะเร็งลำไส้ ต่อไปได้นะคะ ดังนั้น คำว่า ‘กันไว้ดีกว่าแก้’ ยังคงใช้ได้ผลเสมอ

5 วิธี แก้อาการท้องผูกมาก

5 วิธี แก้อาการท้องผูกมาก

ขับถ่ายไม่คล่อง ถ่ายไม่เป็นเวลา ปวดท้องบิด อาการหลักๆ ของคนที่กำลังเผชิญท้องผูก ระยะเริ่มต้น ต้องบอกเลยว่า อาการท้องผูกเป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพที่มักเป็นกันมาก เป็นได้ทุกเพศและทุกช่วงวัย และถ้าไม่แก้ท้องผูกบอกเลยว่า ปัญหาตามมาอีกมากแน่

และถ้าใครที่กำลังเจอปัญหาท้องผูกอยู่มาทางนี้เลย เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำ 5 วิธี แก้ท้องผูกมากให้ทุกคนได้รู้กันใครที่ธาตุหนักมาดูกันเลย แต่ก่อนที่จะไปดูวิธีแก้ท้องผูกมาเช็ก อาการท้องผูกของตัวกันเองก่อนดีกว่าว่า คุณเข้าข่ายมีท้องผูกในระดับไหนแล้วเพื่อที่จะได้จัดการแก้ได้อย่างตรงจุด ถ้าใครไม่อยากเผชิญปัญหาอาการท้องผูกไปตลอดมาสำรวจตัวเองไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ

เช็กหน่อย อาการแบบไหน ที่เรียกว่า ท้องผูก ??

1. อาการที่บ่องบอกว่าคุณเข้าข่าย อาการ ‘ท้องผูก’ แล้ว ให้ลองสังเกตว่า ถ้าเริ่ม ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ให้เริ่มคิดได้เลยว่า เข้าข่ายอาการท้องผูกแล้วล่ะค่ะ เพราะผู้ที่มีสุขภาพดีจะถ่ายอุจจาระอยู่ในช่วงประมาณ 3-21 ครั้งต่อสัปดาห์

2. เวลาขับถ่าย มักมีอาการถ่ายได้ลำบาก ถ่ายได้ไม่สุด หรืออุจจาระมีลักษณะเป็นก้อนแข็ง ถ้าใครมีอาการแบบนี้ติดต่อกันตลอดเวลาขับถ่ายเสมอ

3. มีอาการเจ็บปวดเวลาที่ต้องเบ่งถ่าย หรือมีเลือดปนออกมากับอุจจาระ และหลังถ่ายอุจจาระเรียบร้อยแล้วยังมีความรู้สึกถ่ายไม่หมดหรือถ่ายอุจจาระไม่สุดเสมอ แบบนี้ก็เข้าข่าย อาการท้องผูก แล้วล่ะค่ะ

รู้แบบนี้แล้วยังอยู่เฉยนิ่งนอนใจไม่ได้แล้วล่ะค่ะ ใครที่มี ‘อาการเหล่านี้’ แล้วอยาก ‘แก้ท้องผูก’ มากันไว้ก่อนที่ต้องไปแก้กันที่โรงพยาบาล ดีกว่าเนอะ มาดู 5 วิธี แก้อาการท้องผูกมาก ที่จะตัวช่วยให้เราสามารถขับถ่ายได้ดีขึ้น แล้วช่วยขับพวกของเสียที่อยู่ภายในลำไส้ออกมาได้ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหา ถ่ายยากมาก หรือท้องผูกเรื้อรัง ถ้าอยากให้ปัญหานี้หมดไป ตามมาดูกันเลย

หายแน่แค่แก้เป็น รวม 5 วิธี แก้ท้องผูก เอาอยู่หมัด

ดื่มน้ำให้มากเข้าไว้

แก้ท้องผูก ด้วยการดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 2 ลิตรหรือประมาณ 8-10 แก้ว
 แก้ท้องผูก ด้วยการดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 2 ลิตรหรือประมาณ 8-10 แก้ว

ก็จริงอยู่ว่า น้ำที่เราดื่มเข้าไป เมื่อได้ดูดซึมเข้าร่างกายแล้ว ก็มักจะต้องถูกขับออกผ่านทางปัสสาวะเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังมีน้ำบางส่วน ที่จะดูดซึมและถูกขับออกผ่านทางอุจจาระด้วยเหมือนกัน ดังนั้นเวลาที่เราทานน้ำน้อย อาจส่งผลทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ ลำไส้ก็จะมีการดูดน้ำจากอุจจาระที่ตกค้างกลับเข้าสู่ร่างกาย ทำให้อุจจาระแข็ง ถ่ายออกลำบากและมีอาการท้องผูกนั่นเอง เพราะฉะนั้นคนที่อยากจะ แก้ท้องผูก ข้อแรกที่เราอยากจะแนะนำก็คือ ควรดื่มน้ำสะอาดให้ได้มากที่สุด อย่างน้อย 2 ลิตร หรือประมาณ 8-10 แก้วต่อวันค่ะ
โดยช่วงแรกหากใครยังปรับตัวไม่ได้ ให้ลองเพิ่มปริมาณในการดื่มน้ำปกติของตัวเอง เข้าไปสัก 3-4 แก้ว ควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารที่ย่อยง่ายและดีต่อสุขภาพไปด้วย เพราะ น้ำสะอาด ที่เรากินเข้าไปเยอะๆ จะเข้าไปช่วยทำให้อุจจาระพองตัว นุ่ม และเบ่งออกได้ง่าย รวมไปถึงลดการอุดตันของลำไส้ด้วย และที่สำคัญควรที่หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้จะดีมากค่ะ

ขับถ่ายให้เป็นเวลา

ท้องผูก_แก้ท้องผูก_ขับถ่ายให้เป็นเวลา
ปรับเวลาขับถ่ายให้เป็นเวลา ก็ช่วยได้

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า วิถีชีวิตคนยุคใหม่อยากเราๆ ที่ต้องใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ ทำอะไรก็ต้องแข่งขันกับเวลา ปัจจัยเหล่านี้กระตุ้นให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายของเราชัดเจน โดยเฉพาะ อาการท้องผูก เนี่ยล่ะค่ะ ผู้ที่มีอาการท้องผูกบ่อยๆ ส่วนใหญ่มากเริ่มมาจากพฤติกรรมการขับถ่ายที่ไม่เป็นเวลา และเมื่อเป็นบ่อยๆ ส่งผลให้อาการท้องผูกรุนแรงขึ้นได้ เพราะฉะนั้น หากอยากแก้ท้องผูก ก็แนะนำว่าขับถ่ายให้เป็นเวลา คือสิ่งสำคัญ เหมือนการตั้งนาฬิกาชีวิตไว้ โดยควรเริ่มปรับพฤติกรรมการขับถ่ายในแต่ละวัน ให้เป็นเวลาเดิม ใกล้เคียงกันทุกวัน ไม่ควรไม่กลั้นอุจจาระเมื่อเกิดอาการปวด หรือไม่ขับถ่ายด้วยความรีบเร่ง และไม่เบ่งแรงเพราะอาจจะเกิดอาการบาดเจ็บขึ้นได้
นอกจากนี้ ท่านั่งหรือสรีระในการนั่งขับถ่ายก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้สะดวกต่อการขับถ่ายมากยิ่งขึ้น อย่าง การนั่งถ่ายบนโถส้วมชักโครกนั้น ควรโค้งตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย อาจมีเก้าอี้ตัวเล็กรองบริเวณขา เพื่อชันเข่าขึ้นมาเล็กน้อย ทำให้หัวเข่าอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าสะโพกนั่นเองค่ะ การปรับเปลี่ยนวิธีง่ายๆ นี้ก็สามารถช่วย แก้ท้องผูกได้เช่นกันค่ะ

ฝึกสมาธิแก้ท้องผูก

ท้องผูก_แก้ท้องผูก_ฝึกสมาธิ
แก้ท้องผูกด้วย การฝึกสมาธิ

มาต่อกันที่ วิธีแก้ท้องผูก ข้อที่ 3 กันแล้ว อย่างที่บอกว่า สรีระก็ส่งผลต่อการขับถ่ายได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น วิธีช่วยแก้ท้องผูกดีอีกหนึ่งวิธีนั้นก็คือ การฝึกสมาธิแบบเคลื่อนไหว (Yoga) ใช่แล้วค่ะฟังไม่ผิด การทำสมาธินั้น จะช่วยลดความวิตกกังวล รวมถึงร่างกายและจิตใจก็จะผ่อนคลายตามไปด้วย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลให้ระบบประสาทและอวัยวะในร่างกายทำงานมีประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ บำบัดอาการท้องผูก ช่วยขับลม ทั้งยังช่วยให้ระบบย่อยทำงานดีขึ้นสามารถช่วยแก้ท้องผูกได้ แถมยังช่วยแก้ปวดหลังและปวดเอวได้อีกด้วยค่ะ

โดยวิธีการนั่งสมาธิก็มีหลากลายวิธี สำหรับวิธีที่ช่วยแก้ท้องผูกได้ก็คือ การทำสมาธิเคลื่อนไหว โดยมีวิธีฝึกสมาธิง่ายๆ ตามนี้เลย

1. ยืนตัวตรง แยกเท้าทั้งสองข้างพอประมาณ แขนทั้งสองข้างแนบลำตัว จากนั้นหลับตาลงช้าๆ สูดลมหายใจเข้าทางจมูก นับ 1 – 5 กลั้นหายใจ นับ 1 – 3 แล้วเป่าลมหายใจออกทางปากช้าๆ นับ 1 – 5 นับเป็นหนึ่งรอบ (ทำซ้ำ 5 รอบ)

2. ยกแขนขึ้นโดยให้ข้อศอกทั้งสองข้างอยู่ระดับเอว หันฝ่ามือทั้งสองข้างเข้าหากัน แล้วขยับเข้าหากันช้าๆ นับ 1 – 3 และขยับมือออกช้าๆ นับ 1 – 3 ทำทั้งหมด 36 – 40 รอบ แล้วกลับสู่ท่ายืนเริ่มต้น

3. หายใจเข้าลึกๆ นับ 1 – 5 ค่อยๆ ยกมือขึ้นเหนือศีรษะ จินตนาการว่ากำลังประคองหรืออุ้มแจกันใบใหญ่ไว้บนศีรษะ แล้วค่อยๆ ลดมือลงวางข้างลำตัว นับเป็นหนึ่งรอบ ทำทั้งหมด 36 – 40 รอบ แล้วกลับสู่ท่ายืนเริ่มต้น

การฝึกบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน

แก้ท้องผูก ด้วยการบริหารอุ้งเชิงกรานบ่อยๆ

วิธีนี้เป็นวิธีที่อาจจะยากขึ้นมาอีกหน่อย เพราะอาจจะต้องมีผู้ช่วยอย่างนักกายภาพช่วยเรารักษาอย่างใกล้ชิด และมีอุปกรณ์เข้ามาช่วยฝึกด้วย สำหรับ การฝึกบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหรือที่เรียกว่า ไบโอฟีดแบ็กนี้ก็คือ (Biofeedback Training) วิธีการฝึกและควบคุมการทำงานและผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน
โดยจะเป็นการฝึกขมิบเพื่อเน้นบริหารกล้ามเนื้อที่ควบคุมการขับถ่ายโดยเฉพาะเลย เพื่อทำให้เราเข้าใจถึง วิธีการขับถ่ายที่ถูกต้อง ทั้งท่าทาง การหายใจ การผ่อนคลายกล้ามเนื้อหูรูด และการรับรู้ความรู้สึกค่ะ วิธีนี้เมื่อทำต่อเนื่องกัน เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นวิธีที่ได้ผลในระยะยาว โดยที่เราไม่ต้องพึ่งยารักษาเลยค่ะ

เสริมการทำงานของลำไส้ด้วยโปรไบโอติกส์ แก้ท้องผูก

มาถึง วิธีสุดท้าย เป็นอีกหนึ่งวิธี แก้ท้องผูก ที่ง่ายและสะดวกที่อยากจะแนะนำเลยนั่นก็คือ เสริมการทำงานของลำไส้ด้วยโปรไบโอติกส์ (PROBIOTIC) นั่นเอง สำหรับ เจ้าโปรไบโอติกส์ ก็คือ แบคทีเรียที่มีประโยชน์ชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ภายในลำไส้ของคนเรา โดยไม่ก่อโรคแก่ร่างกาย ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้ จะมีหน้าที่ช่วยสร้างความสมดุล ของสภาวะในระบบการย่อยอาหาร โดยการทำงานของ โปรไบโอติกส์ ก็คือจะไปลด แบคทีเรียชนิดที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ให้ไม่มีอยู่มากจนเกินไป และช่วยปรับการทำงานของลำไส้ให้เป็นปกตินั่นเองค่ะ
โดยการรับประทานโปรไบโอติกส์ที่พบในอาหารต่าง ๆ หรือผลิตภัณฑ์โปรไบโอติกส์ ในรูปแบบอาหารเสริมอาจเป็นอีกตัวเลือกที่ช่วยแก้ท้องผูกให้ดีขึ้นได้ อีกทั้งยังค่อนข้างปลอดภัยและไม่ค่อยเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายอีกด้วยค่ะ

แก้ท้องผูก ด้วย ‘ HOLISTA Probiotic Fiber Detox ’

แก้ท้องผูกด้วย การเสริมโปรไบโอติกส์

และนี่ก็คือตัวอย่าง อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของโปรไบโอติกส์ อย่าง ‘HOLISTA Probiotic Fiber Detox‘ ดีท็อกลำไส้ และล้างสารพิษต่างๆ ที่สะสมภายในร่างกายไปพร้อมๆ ปรับสมดุลระบบภายในร่างกายให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใน HOLISTA นี้ความเด่นของเค้าก็คือ มีส่วนผสมของ PROBIOTIC จุลินทรีย์ตัวสำคัญที่ช่วย แก้ท้องผูก ที่ไม่ใช่สายพันธุ์ทั่วๆ ไปนั่นก็คือ สายพันธุ์ Bacillus Coagulans ที่เป็นสายพันธุ์พิเศษ ถูกคัดสรรมาอย่างดีจากประเทศสหรัฐอเมริกา
โดย PROBIOTIC สายพันธุ์นี้ มีผลวิจัยออกมาแล้วว่า มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูระบบลำไส้ได้มากกว่า PROBIOTIC ทั่วไป ถึง 90% เลย หรือให้พูดเข้าใจง่ายๆ ได้ว่า จุลินทรีย์ชนิดนี้มีประสิทธิภาพมากกว่า จุลินทรีย์ที่มีอยู่ในโยเกิร์ตถึง 100 เท่าเลยทีเดียวค่ะ และนอกจากนี้ใน HOLISTA Probiotic Fiber Detox ยังมีส่วนผสมจากธรรมชาติแท้ 100% รวมแล้วอีกกว่า 20 ชนิดเลย จนได้กลายเป็นสูตร แก้ท้องผูก ลับเฉพาะของ HOLISTA เค้าเลย ดีแบบนี้ คนที่มีลำไส้ไม่ดี มีอาการถ่ายยาก ปวดท้องบิดบ่อยๆ ต้องแก้ท้องผูกควรมีไว้สักกล่องแล้วล่ะค่ะ

ครบแล้วทั้ง 5 วิธี แก้ท้องผูก (อาหารแก้ท้องผูก) ที่เราเอามาแนะนำให้กับ คนที่มี อาการท้องผูกมากๆ กันในรอบนี้ แต่เราขอรับรองเลยว่า ถ้าหากลองเอาวิธีเหล่านี้ไปใช้ อาการท้องผูกที่น่าอัดอึดของคุณ ก็จะทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัด และดีขึ้นแน่นอน นอกจากจะได้วิธีแก้ท้องผูก ขับถ่ายไม่เป็นเวลา ได้อย่างตรงจุดแล้ว ผลดีที่จะได้ตามมาจากคือสุขภาพที่แข็งแรง และยังได้ผิวพรรณที่เปล่งปลั่งออกมาจากภายในสู่ภายนอกด้วย
แต่ก่อนจากกันไป ต้องขอบอกเพิ่มว่า ธรรมชาติในการขับถ่ายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางครั้งบางคนอาจจะมีอาการท้องผูกเกิดขึ้นนี้ได้บ่อยๆ หรือบางคนอาจจะมีอาการนี้บ้างนานๆ ครั้ง แต่ทุกครั้งที่มีอาการ อย่าปล่อยไว้ ต้องหาวิธีแก้ท้องผูกให้ทันท่วงที เพราะอาการท้องผูกที่เราคิดว่าเล็กน้อยนี้ อาจจะกลายเป็น ท้องผูกเรื้อรัง และที่อันตรายไปกว่านั้นก็คือ พวกสิ่งตกค้างต่างๆ ที่สะสมอยู่ในลำไส้ที่หมักหมกจนกลาย โรคร้ายต่อเราได้ อย่าให้ความเคยชินและความละเลย ทำร้ายสุขภาพที่มีค่าของเราไปได้ค่ะ

ท้องผูกเรื้อรัง แก้ได้ ด้วยสูตรธรรมชาติ

ท้องผูกเรื้อรัง แก้ได้ ด้วยสูตรธรรมชาติ

แค่มีอาการ ท้องผูก ทั่วไป ก็ต้องเรียกว่า เจอศัตรูตัวร้ายทำร้ายระบบการขับถ่ายของเราให้แปรปวนแล้ว แต่บอกเลยว่า ถ้าคุณต้องมาเจอกับ อาการท้องผูกเรื้อรังนี่ เข้าไปอีก ชีวิตของคุณจะถูกกระทบหนักยิ่งกว่าท้องผูกทั่วไปมากๆ เพราะโรคนี้เป็นอีกหนึ่งโรคที่เรียกได้ว่าสร้างความรำคาญ และความทรมานกับการใช้ชีวิตประจำวันและระบบขับถ่ายเอามากๆ เลยแหละค่ะ

แต่เชื่อมั้ยคะว่า เราสามารถบรรเทาอาการท้องผูกเรื้อรัง ในระยะแรกๆ ได้ด้วยเพียงแค่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน และตัวช่วยบางอย่าง โดยไม่ต้องเพิ่งคุณหมอเลย เอาล่ะค่ะ แต่จะทราบได้อย่างไรคุณว่ามีอาการท้องผูก (5 วิธีแก้อาการท้องผูกมาก) หรือเข้าขั้น ท้องผูกเรื้อรังแล้ว และควรแก้ไขให้ถูกวิธีและเหมาะสมกับอาการนี้ยังไง ตามมาดูกันเลยค่ะ

ท้องผูกเรื้อรังเกิดจากอะไร ?

ท้องผูก_แก้ท้องผูก_ท้องผูกเรื้อรังเกิดจากอะไร
Cr. https://www.freepik.com/free-photo/asian-boy-sitting-toilet-bowl-holding-tissue-paper-health-problem-concept_3806128.htm#query=diarrhea&position=1

ต้องบอกก่อนว่า ปัญหาท้องผูก และท้องผูกเรื้อรัง (5 วิธีแก้อาการท้องผูกมาก) ทั้งสองปัญหานี้ เกิดขึ้นเพราะลำไส้บีบตัวหรือเคลื่อนตัวช้าในระหว่างที่ย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดของเสียได้ตามปกติที่ควรกำจัดออก และเมื่อมีของเสียตกค้างในลำไส้ใหญ่เป็นเวลานาน ทำให้อุจจาระที่ค้างภายในแห้ง แข็ง และมีขนาดใหญ่ จนขับถ่ายได้ลำบากขึ้นนั่นเองค่ะ ปัญหาลำไส้บีบตัวหรือเคลื่อนตัวได้ช้า และส่งผลให้มีอาการท้องผูกจนเรื้อรังไม่หายขาดสักที อาจเกิดได้มาจากหลากหลายสาเหตุเลย เช่น
● เกิดจากการอาหารการกินในชีวิตประจำวัน เช่น ทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนม รวมถึงอาหารแปรรูปที่มีไขมันและน้ำตาลปริมาณมาก แต่ทานอาหารที่มีไฟเบอร์น้อย และดื่มน้ำไม่เพียงพอ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์มากเกินไปก็เป็นสาเหตุท้องผูกด้วยเหมือนกันค่ะ
● เกิดจากการใช้ยาบางชนิด เพราะในยาบางประเภท อาจส่งผลข้างเคียงให้เกิดอาการท้องผูกได้ เช่น ยาลดกรดที่มีส่วนผสมของสารประกอบอลูมิเนียมไฮดรอกไซด์หรือมีแคลเซียมสูง ยารักษาอาการซึมเศร้า ยาระงับอาการทางจิต ยาแก้ท้องเสีย ยารักษาโรคลมชัก ยารักษาโรคพาร์กินสัน อาหารเสริมกลุ่มแคลเซียมและธาตุเหล็ก ยาแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ ยาระงับปวดชนิดโอปิออยด์ ยาขับปัสสาวะ ยาในกลุ่มแอนตี้มัสคารินิก เป็นต้นค่ะ
● เกิดจากการอุดตันของลำไส้ อาจเกิดภาวะเจ็บป่วยที่ส่งผลให้มีอุจจาระตกค้างในลำไส้ เช่น เกิดแผลปริที่ขอบทวารหนัก ลำไส้อุดตัน มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งทวารหนัก มะเร็งในช่องท้องที่ไปกดทับลำไส้ใหญ่ ภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน เป็นต้น
● เกิดจากปัญหาของเส้นประสาทบริเวณลำไส้ อาจส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณลำไส้และทวารหนัก เช่น ปลายประสาทอัตโนมัติเสื่อม โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง โรคพาร์กินสัน โรคหลอดเลือดสมอง อาการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง เป็นต้น
● เกิดจากปัญหาของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน เป็นกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการบีบตัวของลำไส้ ซึ่งอาจมีอาการอ่อนแรงหรือไม่สามารถบีบและคลายตัวได้อย่างสัมพันธ์กัน จึงส่งผลให้เกิดปัญหาท้องผูกเรื้อรังได้
● เกิดจากการภาวะที่ส่งผลกระทบต่อสมดุลของฮอร์โมน เช่น ป่วยเป็นโรคเบาหวาน โรคลำไส้แปรปรวน ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ หรือตั้งครรภ์ เป็นต้น

เช็กให้ชัวร์ กำลังเป็น ท้องผูก หรือ ท้องผูกเรื้อรัง กันแน่ ?

ท้องผูก_แก้ท้องผูก_ท้องผูกเรื้อรังแก้ด้วยสูตรธรรมชาติ
Cr. https://cdn.pixabay.com/photo/2017/10/06/04/24/abdominal-pain-2821941_960_720.jpg

แต่อย่าเพิ่งตื่นตัวไป งั้นลองมาเช็กกันให้ชัวร์ กันหน่อยดีกว่าว่าคุณมีอาการท้องผูกทั่วไป หรือ อาการท้องผูกเรื้อรังแล้ว จะได้แก้ให้ถูกวิธี
โดยความแตกต่างระหว่าง อาการท้องผูก และ อาการท้องผูกเรื้อรัง ก็คือ ระยะเวลาของอาการที่เกิดขึ้นนั่นเองค่ะ สำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องผูกทั่วไป มักมีอาการท้องผูกที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก หรืออาการท้องผูกเกิดติดต่อกันเพียงไม่กี่วันเท่านั้นก็หายไป แต่สำหรับผู้ที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง มักถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งอาการท้องผูกเรื้อรังจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานกว่า 3 เดือน หรือนานเป็นปีจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของตัวเองนั่นเองค่ะ

ตรวจลักษณะอุจจาระ ของอาการท้องผูกเรื้อรัง

สำหรับคนที่ประสบปัญหาด้านการขับถ่ายบ่อยๆ แต่ยังไม่แน่ใจว่าคุณเข้าขั้น ท้องผูกเรื้อรังแล้วหรือยัง สามารถสังเกตลักษณะอุจจาระที่เป็นสัญญาณแสดงถึงอาการท้องผูกได้ และสำหรับท้องผูกเรื้อรัง อาจจะมีข้อสังเกตได้ง่ายขึ้นก็คือ หากมีอาการข้างล่างนี้ อย่างน้อย 3 อาการ และมีอาการติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือนขึ้นไป ก็เข้าข่าย ประสบปัญหา ท้องผูกเรื้อรังแล้วล่ะค่ะ
● ถ่ายอุจจาระได้ไม่สุด ถ่ายไม่ค่อยออก เนื่องจากรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งมาอุดกั้นบริเวณทวารหนัก
● อุจจาระเป็นก้อนแข็งเล็ก ๆ มีรูปร่างเป็นเม็ด ๆ คล้ายถั่ว
● ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์
● ต้องใช้มือช่วยในการขับถ่ายอุจจาระ
● อุจจาระเป็นก้อนแข็ง มีรูปร่างคล้ายไส้กรอก

วิธีแก้ ปัญหาท้องผูกเรื้อรัง ด้วยสูตรธรรมชาติ

หากคุณคือ หนึ่งใน ผู้ที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง รีบมาหาทางแก้ให้ถูกวิธี ไม่พึ่งหมอ และสารเคมีใดๆ กันดีกว่า เพราะไม่อย่างนั้น อาการท้องผูกนี้ อาจรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราให้ยุ่งยากกว่าเดิม และหากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานและไม่ได้รับการรักษา ก็อาจเป็นต้นเหตุของ โรคร้ายอื่นๆ ตามมาได้ค่ะ
● มะขามเปียก ด้วยการนำมาขยำกับน้ำอุ่น ในปริมาณ 2 แก้ว หลังจากคั้นเสร็จ จะได้เป็นน้ำมะขามข้น ๆ โดยให้เติมเกลือลงไป 1 ช้อนชา สำหรับวิธีการดื่ม ให้ดื่มก่อนเข้านอนสัก 1-2 ชั่วโมง สูตรนี้จะช่วยทำให้ถ่ายง่ายขึ้น หรือสำหรับใครที่เวลาน้อย ก็ลองเปลี่ยนวิธีเป็น นำมะขามเปียกที่แกะเมล็ดออกแล้ว นำมาจิ้มกับเกลือทาน สัก 5-10 ฝัก แล้วดื่มน้ำสะอาดตามเข้าไป ก็ช่วยแก้ท้องผูกเรื้อรังด้วยเหมือนกัน
● มะขามแขก ยังอยู่ที่ตระกูล มะขามเพราะมีฤทธิ์เป็นยาระบายนั่นเองค่ะ สำหรับสูตรนี้ให้ใช้ใบแห้ง 1-2 หยิบมือ หรือ ฝัก 4-5 ฝัก หักเป็นชิ้นเล็ก ๆ ต้มกับน้ำสะอาดปริมาณ 1 ถ้วย ประมาณ 15 นาที แล้วให้ดื่มก่อนเข้านอนค่ะ สูตรนี้เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีอาการท้องผูกประจำ แต่ควรใช้สูตรมะขามทั้ง 2 สูตรนี้ เป็นเมื่อมีอาการท้องผูกเรื้อรังเท่านั้น ไม่ควรทำกินเป็นประจำ เพราะส่งผลให้ขาดธาตุโปแตสเซียม และทำลายระบบประสาทที่ควบคุมการบีบตัวของลำไส้
● ลูกพรุนแห้ง สำหรับสูตรนี้สามารถให้รับประทานลูกพรุนอบแห้งได้ทั้งผลเลย เพราะจะได้รับทั้งกากใยอาหาร โดยแนะนำว่าควรรับประทานตอนกลางคืนก่อนเข้านอน แต่ไม่ควรทานมากเกินไป หรือทานบ่อยเกินไป เพราะถึงแม้จะมีกากใยมาก เพราะในลูกพรุนมีปริมาณน้ำตาลสูงมาก แต่สำหรับผู้ที่โรคประจำตัวอย่าง โรคเบาหวาน หรือต้องรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ควรหลีกเลี่ยงสูตรนี้นะคะ
● เม็ดแมงลัก สูตรนี้เป็นสูตรที่นิยมกันในหมู่คนลดน้ำหนัก และยังเหมาะกับผู้ที่มีอาการท้องผูกเรื้อรังด้วยเช่นกัน ซึ่งวิธีทำก็ไม่ยาก โดยใช้เม็ดแมงลัก 2 ช้อนชา แล้วนำมาแช่ในน้ำสะอาด 1 แก้ว เพื่อให้เม็ดแมงลักพองตัว แล้วค่อยดื่มช่วงก่อนนอน สูตรนี้จะช่วยให้ขับถ่ายได้ดีขึ้น เพราะแมงลักมีเมือกหล่อลื่น ช่วยให้อุจจาระอ่อนตัวนั่นเองค่ะ
● ขี้เหล็ก สำหรับใครที่ลองมาหมดแล้ว แนะนำเป็นสูตรนี้เลยค่ะ เพราะ ขี้เหล็ก ถือเป็นสมุนไพรมีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ ช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น และยังเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ที่มีอาการนอนไม่หลับ รับประทานอาหารไม่ได้ เนื่องจากอาการท้องผูกเรื้อรัง ซึ่งวิธีทำให้นำใบอ่อนหรือดอกตูมมาประกอบอาหาร หรือจะนำใบขี้เหล็ก 4-5 กำมือ มาต้มกับน้ำสะอาดพอท่วมใบขี้เหล็ก แล้วกรองเอาแต่น้ำ นำมาดื่มก่อนนอนก็ได้ค่ะ
● ชุมเห็ดเทศ ต้องบอกก่อนว่า ชุมเห็ดเทศ เป็นสมุนไพรไทย ที่มีฤทธิ์เป็นยาระบายชั้นดีอีกหนึ่งตัว เลยค่ะ โดยวิธีทำให้นำดอกของชุมเห็ดเทศมาลวกเหมือนผักลวก ทานคู่กับน้ำพริก หรืออีกวิธีคือนำใบสดไปหั่นแล้วตากให้แห้ง แล้วนำไปต้มดื่มแบบน้ำชาก็ได้เช่นกันค่ะ

แจกแก้ท้องผูกด้วย อาหารเสริมสูตรธรรมชาติ ดื่มง่าย ถ่ายคล่อง ไม่มีอันตราย!

ไฟเบอร์ดีท็อก_ดีท็อกHolista_FiberDetox
HOLISTA Probiotic Fiber Detox ’ ไฟเบอร์ดีท็อกลำไส้ ล้างสารพิษต่างๆ กระตุ้นการขับถ่าย และ ปรับสมดุลระบบภายในร่างกายให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

● แต่สำหรับใครที่ไม่มีเวลาไปหา เหล่าสมุนไพรข้างต้น มาทาน เรานำเสนออีกหนึ่งวิธีที่จะมาแก้ท้องผูกจากสูตรธรรมชาติเหมือนกันค่ะ ด้วย การทานอาหารเสริมไฟเบอร์หรือเส้นใยจากธรรมชาติล้วนๆ เพื่อที่จะช่วยให้ง่ายต่อการขับถ่าย ซึ่งไม่มีอันตรายและไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย ดีพอๆ กับสูตรธรรมชาติที่เรามาแนะนำเลย อย่างตัวนี้เลยค่ะ Holista Fiber Detox โดย Holista Fiber Detox หรือ Holista Rebalance คือนวัตกรรม Health & Beauty Detox จาก USA ที่รวม Probiotic (โปรไบโอติกส์) + Prebiotic (พรีไบโอติกส์) และ Plant Enzyme เข้าไว้ด้วยกัน ทั้งยังอุดมไปด้วยสารสกัดระดับพรีเมี่ยม 19 ชนิด อาทิ เปลือกองุ่น, เมล็ดองุ่น, ชาเขียว, Co Q10, แครนเบอร์รี่, อะเซโรล่าเชอร์รี่, กีวี, ขมิ้น, ทับทิม เป็นต้น
ที่จะมาช่วยแก้อาการท้องผูกเรื้อรังแบบลงลึกถึงต้นตอของปัญหา ช่วยให้อุจจาระนุ่มขึ้น ขับถ่ายง่าย โล่งสบายท้อง ลดแก๊สในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการกรดไหลย้อน ช่วยขับล้างสารพิษที่ตกค้างในลำไส้ ในเลือดและในตับด้วยนั่นเองค่ะ แนะนำเลยสำหรับคนที่มีปัญหา ท้องผูกบ่อยๆ ถ้าใครอยากหาลองหารีวิวเพิ่มเติม เข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ รีวิว อาหารเสริมดีท็อกซ์ แบรนด์ HOLISTA (โฮลิสต้า)

จบแล้วกับ ปัญหาท้องผูกเรื้อรัง (5 วิธี แก้อาการท้องผูกมาก) ต้องแก้ให้ถูกวิธีด้วยสูตรธรรมชาติ ที่เราเอามาแนะนำกันรอบนี้ อย่าปล่อยให้ท้องผูกเรื้อรังทำร้ายชีวิตที่มีค่าของคุณได้ เพราะโรคที่คิดว่า ธรรมดานี้ อาจเป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย และอาการเริ่มต้นของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในอนาคตได้ หรืออาจจะส่งผลต่อปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายได้ ดังนั้น หากใครที่ลองใช้วิธีแก้ท้องผูกเรื้อรังนี้แล้ว ยังไม่หายก็แนะนำว่า ควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย และรักษาอาการท้องผูกเรื้อรังอย่างเหมาะสมต่อไปค่ะ ยังไงก็อย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพตัวเองกันด้วยนะคะ

3 ท่านวดท้องเร่งอึ ไล่ลม แก้ท้องผูกได้ สบายพุงไปทั้งวัน

3 ท่านวดท้องเร่งอึ ไล่ลม แก้ท้องผูกได้ สบายพุงไปทั้งวัน

ท่านวดท้อง_แก้ท้องผูก_Holista
เมื่อข้าศึกบุก แต่ไม่ยอมออกมา ก็ต้องอาศัยท่านวดท้องแก้ท้องผูกกันหน่อย

ภาวะที่รู้ตัวว่าข้าศึกบุกแต่ยังไม่เห็นมาเคาะประตูซักที เป็นแบบนี้มันช่างอึดอัด ไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวเอาซะเลย แต่มีข่าวดีมาบอก เพียงมี 3 ท่านวดท้อง แก้ท้องผูก ไล่ลม เร่งอึให้มาเร็วขึ้นมาฝาก แถมด้วยทริคที่จะช่วยให้คุณสบายพุงไปได้ทั้งวัน ไม่ต้องทนกับความรู้สึกแน่นท้อง เลือดลมที่ไม่หมุนเวียน ลำไส้ไม่ทำงานแบบเดิมอีกต่อไป มัวแน่นท้องกันอยู่ทำไม เตรียมนิ้วมือให้พร้อม แล้วมานวดท้องกัน

ทำไมต้องนวดท้องเพื่อแก้ท้องผูก? วิธีนี้เหมาะกับใคร?

ท่านวดท้อง_แก้ท้องผูก_Holista
คนที่มีปัญหากับอาการปวดท้อง ท้องผูกบ่อยๆ ลองนวดท้องดูแล้วจะรู้ว่าช่วยได้มาก

ลองนึกภาพตามว่าคุณกำลังมีความรู้สึกปวดท้อง มวนท้องแบบที่ว่าไว้ข้างบน หรือยุ่งยากกว่านั้นคือกำลังมีอาการท้องผูก ถ่ายลำบาก เบ่งก็แล้ว เปลี่ยนท่านั่งก็แล้วก็ยังไม่ออกซักที วิธีที่จะช่วยแก้ไขอาการท้องผูก อึไม่ออกได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงทีที่สุดก็ต้อง นวดท้องแก้ท้องผูก เท่านั้นแหละ
เพราะร่างกายของเรามีการทำงานประสานกันไปทุกส่วน ซึ่งหน้าท้องถือเป็นบริเวณที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของลำไส้และสัมพันธ์กับระบบขับถ่ายอย่างตรงจุดที่สุด เพราะฉะนั้นการนวดกดจุด โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องจึงเป็นการกระตุ้นให้ขับถ่ายได้คล่องขึ้น เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น และใช้เวลาเพียงไม่นาน
ดังนั้นการนวดท้องแก้ท้องผูกนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่กำลังตกอยู่ในสภาวะท้องผูก แน่นลม และต้องการขับถ่ายออกไปให้สบายท้อง ซึ่งวิธีนี้นี่แหละสะดวก ง่ายและรวดเร็ว คุณสามารถนวดท้องแก้ท้องผูกที่ไหนก็ได้ สั่งได้แบบทันใจเชียวล่ะ

3 ท่านวดท้อง แก้ท้องผูก เร่งอึ ไล่ลม

แน่นท้อง อืดท้อง อึดอัด ถ่ายไม่สะดวก มีอาการเหมือนจะท้องผูกแล้วหรือไม่ ถ้าใช่ก็ตามมาแก้ท้องผูกง่ายๆ ด้วยการนวดท้อง ทั้ง 3 ท่านี้

นวดท้อง วนตามเข็มนาฬิกา แก้ท้องผูก

ท่านวดท้อง_แก้ท้องผูก_Holista
Photo by Jannes Jacobs on Unsplash

เริ่มจากนวดท้องแก้ท้องผูกด้วยท่าเบสิค นวดวนเป็นวงกลมรอบสะดือ วนตามเข็มนาฬิกาไปเลย โดยวางมือทั้งสองข้างไว้เหนือสะดือจากนั้นค่อยกดน้ำหนักลง นวดบนหน้าท้องวนไปตามรอบ ใช้ความเร็วแบบปานกลาง ประมาณ 15-20 รอบ หรือใครจะสะดวกกดเน้นน้ำหนักเป็นจุดๆ รอบสะดือแทนก็ไม่ว่ากัน แค่หมุนวนไปตามทิศทางเดียวกับเข็มนาฬิกาถือเป็นใช้ได้
ข้อดีของการนวดท้องแก้ท้องผูกในท่านี้คือเป็นการกระตุ้นลำไส้นั่นเอง โดยเป็นทิศทางเดียวกับการเคลื่อนตัวของลำไส้ กระตุ้นจากลำไส้เล็กไปยังลำไส้ใหญ่ ให้ทำงานประสานกันได้ดียิ่งขึ้น

นวดท้อง ในท่าขึ้นและลง แก้ท้องผูก

ท่านวดท้อง_แก้ท้องผูก_Holista
Photo by Mayron Oliveira on Unsplash

นวดหน้าท้องแก้ท้องผูกในทิศทางขึ้นและลงสลับกันแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากจุดใต้ซี่โครง เหนือสะดือเล็กน้อย นวดท้องไล่ลงไปจนถึงหน้าท้องส่วนล่าง จากนั้นก็นวดหน้าท้องกลับมาในจุดเดิม ค่อยๆ นวดด้วยน้ำหนักมือพอประมาณ และเลื่อนขึ้นลงแบบไม่ช้าไม่เร็วเกินไป ทำก่อนนอนและหลังตื่นนอนวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 10-15 ครั้งเพื่อเป็นการช่วยดันกากอาหารในลำไส้ใหญ่ให้เคลื่อนตัวลงมาได้ดีขึ้น
แต่หากจะให้ได้ผลดียิ่งขึ้นเวลานวดท้องแก้ท้องผูกในท่านี้อย่าลืมหาหมอนเล็กๆ หรือผ้าห่มมารองเอวช่วงเหนือสะดือขึ้นไปเล็กน้อย และลองดื่มน้ำแก้วเล็กๆ หลังตื่นนอนก็จะยิ่งช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก

นวดท้อง กดจุด แก้ท้องผูก

ท่านวดท้อง_แก้ท้องผูก_Holista
หาจุดที่ต่ำกว่าสะดือประมาณ 3นิ้ว เยื้องมาทางขวาเล็กน้อย เจอแล้วกดเบาๆ เลย

ท่านวดท้องแก้ท้องผูกท่าสุดท้าย ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่กดให้ถูกจุด โดยจุดที่เหมาะแก่การนวดหน้าท้องกดจุดแก้ท้องผูกที่สุดคือหน้าท้องใต้สะดือ วัดลงมาประมาณ 3 นิ้วมือก็เพียงพอ เพียงใช้นิ้วมือกดจุดนวดท้องเบาๆ กดสลับหยุดไปสักพัก ไม่ต้องกดแช่ไว้
ความมหัศจรรย์ของการนวดท้องท่านี้คือนอกจากจะช่วยแก้ท้องผูกได้แล้วยังดีต่อคนที่มีแก๊สในกระเพาะอาหารเยอะเพราะช่วยลดแก๊สดังกล่าวได้ดี แถมยังช่วยลดอาการเจ็บกล้ามเนื้อหน้าท้องได้อีก เห็นมั้ยว่าแค่จุดเล็กๆ จุดเดียวสามารถช่วยแก้อาการได้ถึง 3 อย่างเชียวนะ

แถม! ทริคสบายพุงตั้งแต่เช้าด้วยดีท็อกซ์ Holista Fiber Detox

ท่านวดท้อง_แก้ท้องผูก_Holista
นวดท้องแก้ท้องผูกว่าง่ายแล้ว มี Holista ช่วยแก้ท้องผูกได้ง่ายขึ้นไปอีก

ยังไม่หมดแค่นี้ ตามที่สัญญาไว้ว่าเรามีทริคช่วยให้สบายพุงแบบง่ายมาแถมให้ด้วย โดยสามารถประยุกต์ใช้วิธีนี้ร่วมกับการนวดท้องแก้ท้องผูกในท่าต่างๆ ได้อย่างสบายๆ นั่นคือการดื่ม Holista Fiber Detox ด้วยนั่นเอง
Holista Fiber Detox คือดีท็อกซ์ในรูปแบบซอง อุดมไปด้วยสารสกัดระดับพรีเมี่ยม 19 ชนิด อาทิ เปลือกองุ่น, เมล็ดองุ่น, ชาเขียว, Co Q10, แครนเบอร์รี่, อะเซโรล่าเชอร์รี่, กีวี, ขมิ้น, ทับทิม เป็นต้น ทั้งยังมีโพรไบโอติกส์และพรีไบโอติกส์ จุลินทรีย์ที่ช่วยฟื้นฟูระบบขับถ่าย ทำให้ความดีงามของโฮลิสต้าคือดูแลได้ครบ จบในซองเดียว ทั้งช่วยปรับสมดุลลำไส้ แก้อาการท้องผูก ฟื้นฟูระบบย่อยอาหาร ล้างสารพิษในร่างกาย การันตีว่าเห็นผลตั้งแต่ซองแรก ‘9 เมนูที่มี Prebiotic (พรีไบโอติกส์) สูง

ท่านวดท้อง_แก้ท้องผูก_Holista
ดื่มโฮลิสต้าช่วง 2 ทุ่ม ถึง 4 ทุ่มเป็นเวลาที่ดีต่อการทำงานของลำไส้ที่สุด

แถมดีท็อกซ์ตัวนี้ยังแก้ได้หลายอาการ เพียงดื่มวันละ 1 ซองต่อเนื่องกัน 14 วันจะช่วยล้างสารพิษในร่างกาย และหากดื่มต่อเนื่องกันประมาณ 1 เดือนจะช่วยแก้อาการท้องผูกรวมถึงกรดไหลย้อนได้อีกด้วย ที่สำคัญคือไม่ต้องกังวลว่าหากหยุดกินแล้วจะกลับมาท้องผูกอีก เพราะหลังจากลองกินมาซักระยะจะรู้สึกได้เลยว่าดีท็อกซ์โฮลิสต้านี้ไม่ได้ช่วยให้ถ่ายท้องแบบยาระบาย แต่เข้ามาช่วยปรับสมดุลลำไส้ ให้ลำไส้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นมากกว่า ดังนั้นหากจะลองกินต่อแบบวันเว้นวัน หรืออาทิตย์ละ 1-2 ครั้งก็ยังคงถ่ายท้องได้ดี สบายและโล่งท้องเช่นเดิม

ท่านวดท้อง_แก้ท้องผูก_Holista
ท่านวดท้อง_แก้ท้องผูก_Holista

และไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะอย่างที่บอกว่าโฮลิสต้ามีส่วนผสมสกัดจากธรรมชาติ 100% อีกทั้ง Holista Rebalance มีผลวิจัยรับรองส่วนผสมจาก Wageningen Academic Publishers ที่สหรัฐอเมริกา มี อย. รับรอง ถูกต้อง ปลอดภัย และผ่านมาตรฐาน GMP และ HACCP ระดับสากล จึงวางใจได้ว่าไม่ทำให้ผิดหวัง

ท่านวดท้อง_แก้ท้องผูก_Holista
นวดท้องแก้ท้องผูก+ทริคสบายพุงด้วยโฮลิสต้า รับรองว่าหายห่วง

ย้ำอีกครั้งว่าการนวดท้องแก้ท้องผูก 3 ท่าที่ว่าไว้ข้างบนนั้นเป็นวิธีง่ายๆ ทำได้ทุกที่ และหากอยากได้สิ่งที่ช่วยได้มากกว่าแก้ท้องผูก อย่าลืมดื่ม Holista Fiber Detox เพราะนอกจากจะช่วยแก้ท้องผูกแบบลงลึกถึงต้นตอของปัญหาแล้ว ยังทำให้มีสมดุลในลำไส้ คลายจากอาการแน่นท้องจากแก๊สในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการกรดไหลย้อน ขับล้างสารพิษตกค้างในลำไส้ ในเลือดในตับได้ด้วย แถมยังส่งผลดีต่อผิวพรรณ ช่วยให้ดูเปล่งปลั่งอ่อนเยาว์ รักษาอาการสิวเรื้อรังที่ใบหน้าและหลังได้ และยังช่วยบล็อคแป้งและไขมันได้อีก ครอบคลุมขนาดนี้ มีแต่ได้กับได้แน่นอน

เอาล่ะ ได้กันไปครบทุกเทคนิค ทั้ง 3 ท่านวดท้องแก้ท้องผูกง่ายๆ และทริคช่วยให้สบายพุงด้วยการดื่ม Holista ดีท็อกซ์เพียงวันละซอง แค่นี้ก็ช่วยแก้ได้ถึงต้นตอของปัญหาท้องผูกและปรับสมดุลลำไส้ให้ทำงานดีขึ้นได้แบบยาวๆ หวังว่าจากนี้ทุกคนจะห่างไกลจากอาการท้องผูกมากขึ้น และหากว่าใครมีอาการนี้อยู่ ก็อย่าลืมทบทวนสาเหตุและรักษาอาการท้องผูกตามที่ว่ามากันนะ จะได้ไม่ต้องเสียสุขภาพกันทั้งกายทั้งใจทั้งลำไส้ยังไงล่ะ