ไม่ว่าใครก็คงใฝ่ฝันอยากจะเป็นเจ้าของหุ่นผอมเพรียว ไร้พุงหย่อนๆ ย้อยๆ ห้อยล้ำหน้ากันทั้งนั้นใช่มั้ยล่ะคะ? แล้วเคยสงสัยกันบ้างรึเปล่าว่าทั้งที่ตัวเราเองก็ไม่ได้เป็นคนกินเยอะ หรือกินจัดหนักจัดเต็มกว่าคนอื่นเขาสักเท่าไหร่ แต่ทำไม?! หุ่นถึงได้อ้วนล้ำหน้าเพื่อนคนอื่นๆ ที่ทั้งกินเก่ง ชอบกินของจุกจิกไม่หยุดปาก แต่หุ่นก็ยังคงดูผอมแห้งตัวเล็กไม่เปลี่ยนแปลง…
สาเหตุที่เป็นแบบนั้น ก็เพราะว่าประสิทธิภาพระบบเผาผลาญของแต่ละคนไม่เท่ากันนั่นเองค่ะ สำหรับคนที่ระบบเผาผลาญทำงานได้ดี ต่อให้กินอาหารในปริมาณเยอะเท่าๆ กัน แต่ก็สามารถเบิร์นไขมันและแคลอรี่ออกไปได้เร็วกว่าคนที่ระบบเผาผลาญทำงานได้ช้า แล้วปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งอย่าง ที่ทำให้เรากลายเป็นคนที่กินน้อยแต่กลับอ้วนง่าย อาจเป็นเพราะจุลินทรีย์ดีอย่างเจ้า ‘Probiotic’ ที่ทำหน้าที่กระตุ้นการย่อยอาหารในร่างกายมีปริมาณน้อยมากๆ ทำให้ลำไส้ไม่สามารถดูดซับอาหารและขับสารพิษตกค้างออกมาได้แบบหมดจด เลยส่งผลให้เกิด อาการท้องอืดหรือท้องผูก (10 อาหารแก้ท้องผูก ช่วยขับถ่าย ไม่ว่าธาตุหนักหรือเบาก็เอาอยู่) ได้ง่ายๆนั่นเองค่ะ
ในปัจจุบันหลายคนเลยนิยมหันมารับประทานอาหารเสริม ที่มีส่วนประกอบของทั้ง ‘Probiotic’ (ลดพุง ดีท็อกลำไส้! เลือกกิน ‘ Probiotic ’ และ ‘ Prebiotic ’ อย่างไร ให้ถูกวิธีและเห็นผล?) และ ‘Prebiotic’ (ยิ่งกิน ยิ่งดีต่อลำไส้! ชวนดู 9 เมนูที่มี ‘ Prebiotic ’ ( พรีไบโอติก) เพื่อเข้าไปช่วยเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ตัวดีในลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างสมดุล และเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น แต่สำหรับใครที่ยังเกิดความสงสัยอยู่เบาๆ ว่าเจ้า ‘Probiotic’ และ ‘Prebiotic’ สองคำนี้มันคืออะไรกันแน่? แล้วแตกต่างกันยังไงบ้าง? วันนี้เราก็ไม่พลาดที่จะพาทุกคนไปหาคำตอบเกี่ยวกับจุลินทรีย์ตัวดีสองชนิดนี้ด้วยล่ะ
ถึงแม้คำว่า ‘Probiotic’ และ ‘Prebiotic’ จะเขียนและออกเสียงคล้ายๆ กันก็จริง แต่ทั้ง 2 อย่างนี้มีหน้าที่แตกต่างกันนะคะ ถ้าอยากรู้ว่าแต่ละตัว คืออะไร? ทำหน้าที่อะไรบ้าง? ก็ตามมาดูพร้อมกันได้เลย
‘โปรไบโอติก’ หรือ ‘Probiotic’ ก็คือจุลินทรีย์ขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของคนเรา จัดอยู่ในกลุ่มของจุลินทรีย์ตัวดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทำหน้าที่ในการช่วยดูดซึมอาหารและวิตามิน แล้วยังสามารถพบจุลินทรีย์ชนิดนี้ได้ในอาหารพวก โยเกิร์ต นมเปรี้ยว หรือผักดองต่างๆ ได้ด้วยนะ
ส่วน ‘พรีไบโอติก’ หรือ ‘Prebiotic’ เป็นสารอาหารชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายของคนเราไม่สามารถย่อยหรือดูดซึมได้ในระบบทางเดินอาหาร แต่เป็นแหล่งอาหารสำคัญของ ‘Probiotic’ ที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ตัวดีในลำไส้ เลยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น
ทั้ง ‘Probiotic’ และ ‘Prebiotic’ ถือเป็นหัวใจสำคัญ ในการควบคุมทั้งอารมณ์ สุขภาพ และผิวพรรณของคนเราได้เลยนะคะ เพราะว่าเวลาที่ร่างกายได้รับจุลินทรีย์ตัวดีเพิ่มเข้าไป ก็จะกระตุ้นระบบต่างๆ ภายในให้เกิดความสมดุลและทำงานได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะระบบลำไส้ ระบบการย่อยอาหาร และระบบขับถ่าย พอระบบเหล่านี้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็จะช่วยทำให้เราสามารถดีท็อกขับของเสียและสารพิษออกมาพร้อมอุจจาระในแต่ละวัน ไม่ต้องเสี่ยงเจอกับปัญหาท้องผูกหรือขับถ่ายยากอีกต่อไปแล้ว งานนี้นอกจากจะช่วยสลายพุงให้ยุบลง ทำให้รู้สึกโล่งสบายท้อง แล้วยังส่งผลให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งกระจ่างใส เพราะระบบภายในสะอาดขั้นสุดอีกด้วยล่ะ
แล้วหาก ‘Probiotic’ และ ‘Prebiotic’ ทำงานแบบมีประสิทธิภาพ ก็สามารถช่วยเรื่องสุขภาพและความงามได้อีกหลายอย่างเชียวล่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการช่วยลดแก๊สในกระเพาะอาหาร, บรรเทาอาการกรดไหลย้อน, ช่วยขับล้างสารพิษที่ตกค้างในลำไส้ ในเลือด และในตับ หรือแม้กระทั่งช่วยกำจัดแป้งและไขมัน สำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักได้เหมือนกันนะ
ฮั่นแน่… พอได้ทำความรู้จักและรู้ถึงประโยชน์ดีๆ ของทั้ง ‘โปรไบโอติก’ และ ‘พรีไบโอติก’ ไปแล้ว หลายคนคงอยากจะไปหาซื้อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโปรไบโอติก มาทานกันอย่างไวแน่นอนเลยใช่มั้ยล่ะ แล้ววันนี้เราก็มีทริคดีๆ ในการกิน ‘Probiotic’ และ ‘Prebiotic’ ให้ถูกวิธีและเห็นผล มาแนะนำกันด้วยนะคะ รับรองได้เลยว่าถ้าใครนำไปทำตาม ก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับสมดุลระบบต่างๆ ภายในร่างกาย ให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังได้แน่ๆ
(1) เลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองความปลอยภัย
ไม่ว่าคุณกำลังจะเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดไหนมารับประทาน สิ่งสำคัญอย่างแรกที่ควรนึกถึงก็คือเรื่องของความปลอดภัยนั่นเองค่ะ ก็เพราะว่าสิ่งต่างๆ ที่เรานำเข้าปาก ก็ล้วนส่งผลต่อร่างกายได้ทั้งนั้นเลยนี่นา ฉะนั้นเราเลยอยากจะขอแนะนำให้ลองเลือกอาหารเสริมโปรไบโอติก ที่มี อย. ผ่านการรับรองความปลอดภัย จะได้ทานกันได้แบบมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ ไม่เป็นอันตรายยังไงล่ะ
(2) เลือก ‘Probiotic’ ที่ทนต่อกรดในกระเพาะอาหารได้
ถ้าอยากจะกิน ‘Probiotic’ และ ‘Prebiotic’ ให้ได้ผลดี ก็ต้องไม่ลืมหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อด้วยล่ะ ว่าอาหารเสริมตัวนั้นๆ เป็นโปรไบโอติกสายพันธ์ที่มีความทนน้ำย่อยในกระเพาะอาหารได้ดีรึเปล่า? และ สามารถผ่านไปถึงลำไส้ได้หรือไม่? เพื่อที่จะสามารถเข้าไปปรับสมดุลลำไส้ได้แบบตรงจุดจริงๆ
(3) ควรทาน ‘Probiotic’ กับ ‘Prebiotic’ ควบคู่กันไป
ยังจำที่เราบอกไปก่อนหน้านี้ได้รึเปล่าคะว่า พรีไบโอติกถือเป็นแหล่งอาหารสำคัญที่จะช่วยทำให้จุลินทรีย์ตัวดีอย่างโปรไบโอติกเติบโตและทำงานได้ดียิ่งขึ้น แบบนี้เลยควรเลือกทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีทั้ง ‘Probiotic’ กับ ‘Prebiotic’ ควบคู่กัน เพื่อที่จะได้เสริมประสิทธิภาพการทำงานของโปรไบโอติก และกระตุ้นให้ระบบลำไส้ ระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่ายเกิดความสมดุลขึ้นกว่าเดิมค่ะ
แหม… ไหนๆ ก็มาแนะนำการกิน ‘Probiotic’ และ ‘Prebiotic’ กันแบบเต็มอิ่ม ข้อมูลแน่นขนาดนี้แล้ว วันนี้เราก็มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดีๆ ที่ตอบโจทย์ครบถ้วนตามที่ทุกคนต้องการมาฝากกันด้วยนะคะ นั่นก็คือ ‘HOLISTA Probiotic Fiber Detox’ หรือ ดีท็อกโฮลิสต้า ซองเขียวๆ เด่นๆ ตัวนี้เลยค่ะ
แล้วเหตุผลที่เราเลือกนำอาหารเสริมแบรนด์นี้มาแนะนำกัน นั่นก็เพราะว่าในผลิตภัณฑ์มีส่วนประกอบจากทั้ง Probiotic + Prebiotic + Plant Enzyme พร้อมทั้งส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% อีกหลายชนิด โดยพระเอกของงานอย่างโปรไบโอติก ก็เป็นสายพันธ์พิเศษนำเข้าจากอเมริกา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่สามารถเคลื่อนตัวผ่านน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร เพื่อเข้าไปปรับสมดุลลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงแค่ฉีกซองชงดื่มผสมกับน้ำเปล่า 150 – 200 มล. แล้วดื่มน้ำตามอีก 1 แก้ว ก่อนเข้านอน 2 ชั่วโมง ดีท็อกโฮลิสต้าก็จะฟื้นฟูระบบลำไส้และระบบย่อยอาหาร แล้วได้ผลลัพธ์ตามมาก็คือการขับถ่ายในช่วงเช้า ไปแบบโล่ง ฟิน สบาย ไม่รู้สึกปวดบิดหรือทำให้อ่อนเพลียเหมือนการใช้ยาถ่ายด้วยนะ
・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・・
รู้อย่างนี้แล้วใครที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบลำไส้ การย่อยอาหาร หรือการขับถ่าย ชอบมีอาการท้องอืดหรือท้องผูกโผล่มาเยือนอยู่บ่อยๆ ก็ต้องรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองซะใหม่แล้วนะคะ โดยควรหันมาเลือกทานผักและผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงให้มากขึ้น ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน เข้าฟิตเนสไปออกกำลังกายบ้าง ฯลฯ แล้วถ้าอยากจะเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับสมดุลระบบต่างๆ ภายในได้แบบลึกถึงต้นตอ ก็ต้องไม่ลืมที่จะหาซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของ ‘Probiotic’ (ลดพุง ดีท็อกลำไส้! เลือกกิน ‘ Probiotic ’ และ ‘ Prebiotic ’ อย่างไร ให้ถูกวิธีและเห็นผล?) และ ‘Prebiotic’ ยิ่งกิน ยิ่งดีต่อลำไส้! ชวนดู 9 เมนูที่มี ‘ Prebiotic ’ ( พรีไบโอติก ) อย่าง ‘HOLISTA Probiotic Fiber Detox’ มาเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเสริม ก็ช่วยขจัดปัญหาสุขภาพที่กำลังกวนใจให้หายไป แถมยังสะดวกมากๆ อีกด้วยล่ะ