โฮลิสต้า (ประเทศไทย) | HOLISTA

โพรไบโอติก ควรรับประทานนานแค่ไหน?

โพรไบโอติก (Probiotic) จัดว่าเป็นอาหารเสริมที่ไม่ต่างจากวิตามินตัวอื่น ๆ จึงทำให้หลายคนสงสัยว่าโพรไบโอติกนั้นควรรับประทานนานแค่ไหน หรือหยุดทานแล้วจะมีผลข้างเคียงไหม แต่ก่อนที่จะสงสัยไปมากกว่านี้ เรามาทำความรู้จักกับไพรโบโอติกกันก่อนว่าคืออะไร ทำไมร่างกายถึงต้องการโพรไบโอติกไม่แพ้กับวิตามินตัวอื่น วันนี้ Holista จะพาไปไขข้อสงสัยกัน ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันเลย!

โพรไบโอติก (Probiotic) คืออะไร?

โพรไบโอติก เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่สามารถทนต่อกรดและด่างได้ อีกทั้งยังต่อต้านหรือกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ไม่ดีอื่นๆ ได้ทั้งหมด เมื่อรับประทานโพรไบโอติกเข้าไปแล้วก็จะช่วยให้เกิดความสมดุลของร่างกายทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพของลำไส้ที่แข็งแรง ผิวพรรณที่เปล่งปลั่ง รวมถึงมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น

ซึ่งอาหารที่พบโพรไบโอติกได้มากที่สุดก็คือ “โยเกิร์ต” ตามด้วยอาหารหมักดองต่าง ๆ เช่น นมเปรี้ยว กะหล่ำปลีดอง คอมบูชา ผักดอง และกิมจิ แต่ถ้าใครไม่ชอบทานอาหารหมักดอง อาหารเสริมโพรไบโอติกที่รวมจุลินทรีย์มากมายหลายสายพันธุ์ก็ถือว่าตอบโจทย์ เพราะสามารถช่วยปรับสมดุลในระบบขับถ่ายและระบบทางเดินอาหารได้ดีเช่นเดียวกันค่ะ

ทำไมร่างกายถึงต้องการโพรไบโอติก (Probiotic)?

ปวดท้อง

ต้องอธิบายก่อนว่าภายในลำไส้ของคนเรานั้นเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่จะคอยสร้างระบบนิเวศอย่าง ไมโครไบโอม (Microbiome) ที่เป็นส่วนช่วยทำให้เกิดความสมดุลของระบบทางเดินอาหาร ซึ่งกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ไมโครไบโอมแข็งแรงได้ก็คือการทานอาหารที่จะช่วยปรับความสมดุลระหว่างแบคทีเรียทั้งดีและไม่ดีเกือบ 1,000 สายพันธุ์ในลำไส้ โดยต้องเป็นอาหารที่จุลินทรีย์และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กทั้งหลายชื่นชอบมันด้วย

ซึ่งแน่นอนว่าโพรไบโอติกก็จัดเป็นอาหารที่จุลินทรีย์และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กทั้งหลายต่างชื่นชอบ การทานโพรไบโอติกเป็นประจำจึงช่วยให้ระบบย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหารในลำไส้ทำงานได้อย่างเป็นปกติ ช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดการอักเสบ และเสริมการทำงานระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

แต่ในทางกลับกันหากร่างกายของเราสูญเสียโพรไบโอติกจำนวนมาก พื้นที่ในลำไส้ก็จะถูกยึดครองด้วยแบคทีเรียชนิดไม่ดีที่เป็นพิษต่อร่างกาย ส่งผลให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ตามมา เริ่มตั้งแต่ระบบย่อยอาหารมีปัญหา เกิดแก๊ส อาการท้องอืด การขับถ่ายผิดปกติ ท้องเสียเรื้อรัง ท้องผูกง่าย รวมไปถึงสุขภาพจิตที่แปรปรวน เป็นต้น ซึ่งถ้าหากเรามองข้ามและปล่อยอาการเหล่านี้ไว้นาน ๆ ก็อาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายโดยรวมได้ ดังนั้นเราจึงควรรักษาระบบนิเวศน์ของจุลินทรีย์ให้อยู่ในสมดุลอยู่เสมอ หรือจดจำง่าย ๆ ว่าร่างกายต้องมีแบคทีเรียดีมากกว่าแบคทีเรียไม่ดี เพื่อให้ลำไส้ของคุณมีสุขภาพดีค่ะ

การรับประทานโพรไบโอติก ควรรับประทานนานแค่ไหน?

โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ถึงจะเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพลำไส้ เนื่องจากโพรไบโอติกจะต้องใช้ระยะเวลาในการเพิ่มจำนวนและคืบคลานเข้าสู่ลำไส้ เพื่อให้มีแบคทีเรียดีมากกว่าแบคทีเรียก่อโรค ดังนั้นคุณจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนก็ต่อเมื่อระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิม เช่น ขับถ่ายง่าย ไม่ปวดท้อง ผิวพรรณเปล่งปลั่ง รวมถึงร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้น

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นที่อาจทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในลำไส้ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น

– สายพันธุ์โพรไบโอติกที่แบรนด์เลือกมาใช้

– ปริมาณโพรไบโอติกต่อ 1 หน่วยบริโภค 

– รูปแบบของอาหารเสริม (ผง เยลลี่ แคปซูล) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการลำเลียงโพรไบโอติกไปถึงลำไส้ได้ต่างกัน

ปัญหาสุขภาพส่วนบุคคล ซึ่งต้องเกี่ยวข้องกับลำไส้และระบบทางเดินอาหาร

 

การหยุดรับประทานโพรไบโอติก มีผลข้างเคียงหรือไม่?

อย่างที่บอกว่าโพรไบโอติกเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก จึงทำให้สามารถย่อยสลายตัวเองไปได้เรื่อย ๆ และแน่นอนว่าเมื่อเราหยุดทานโพรไบโอติก ความสมดุลของจุลินทรีย์ก็จะเปลี่ยนไป ส่งผลให้แบคทีเรียก่อโรคสามารถเข้ามารุกล้ำพื้นที่ในลำไส้ได้ง่ายขึ้น โดยผู้ที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังหยุดทานโพรไบโอติกได้ชัดเจนสุด ๆ ก็คือผู้ที่มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้และระบบทางเดินอาหารมาก่อน ซึ่งก็อาจทำให้กลับไปเป็นอาการเดิมได้ เช่น แก๊สในกระเพาะเยอะ ท้องเสียเรื้อรัง ท้องผูก ย่อยอาหารยาก เป็นต้น

สรุปได้ว่าการรักษาสมดุลจุลินทรีย์โพรไบโอติกในร่างกายก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำในช่วงเวลาสั้น ๆ แล้วจบ การทานโพรไบโอติกต้องใช้ระยะเวลาในการเพิ่มจำนวนและส่งกองทัพโพรไบโอติก
คืบคลานเข้าสู่ลำไส้ เพื่อไปต่อสู้กับแบคทีเรียก่อโรค !

ดังนั้นถ้าอยากรักษาโพรไบโอติกให้อยู่กับร่างกายไปนาน ๆ ก็ต้องหมั่นเติมและเพิ่มจำนวนอยู่เสมอ แล้วเมื่อคุณมีสุขภาพลำไส้ที่ดีแล้ว ก็อาจลดปริมาณในการโพรไบโอติกลงได้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อคนเราทานโพรไบโอติกแล้วมีสุขภาพดีขึ้น ก็มักจะอยากคงสภาพนี้ต่อไปเรื่อย ๆ จึงเลือกทานโพรไบโอติกเพื่อรักษาสมดุลแบคทีเรียดีในลำไส้อย่างต่อเนื่องนั่นเองค่ะ