โฮลิสต้า (ประเทศไทย) | HOLISTA

แนะนำ ไฟเบอร์ดีท็อก ของดีต้องบอกต่อ

แนะนำ ไฟเบอร์ดีท็อก ของดีต้องบอกต่อ

แม้ว่าเราจะสามารถขับถ่ายได้เองเป็นปกติ ไม่มีภาวะท้องผูกมากวนใจ หรือจะพยายามดูแลตัวเอง ด้วยการเลือกทานอาหารที่มีประโยนช์ต่อร่างกายแล้วนั้น แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า ระบบขับถ่ายของเรานั้น ยังสะอาดและสุขภาพดีอยู่ ??

บอกเลยว่า ระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่าย เป็นอีกหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการที่จะส่งผลต่อสุขภาพของเราโดยตรงเลยแหละ ซึ่งเรื่องนี้เองที่ใครหลายๆ คน มักยังมองข้ามไป วันนี้เราเลยอยากจะมาอธิบาย เกี่ยวกับข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับเรื่องของการดีท็อกซ์ลำไส้ด้วย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่าง “ไฟเบอร์ดีท็อก” (ลดพุงดีท็อกลำไส้! เลือกกิน ‘ Probiotic ’ และ ‘ Prebiotic ’ อย่างไร ให้ถูกวิธีและเห็นผล?) ที่ช่วยทำความสะอาดลำไส้ ชะล้างสารพิษและสิ่งตกค้างในระบบขับถ่ายและระบบทางเดินอาหารให้กลับมามีสุขภาพดีมาฝากคนรักสุขภาพให้เก็บไว้เป็นความรู้กัน

“ไฟเบอร์ดีท็อก” คืออะไร ??

ไฟเบอร์ดีท็อก_คืออะไร__FiberDetox
ไฟเบอร์ดีท็อก(FiberDetox) คืออะไร

ไฟเบอร์ ก็คือ เส้นใยอาหาร ที่อยู่ส่วนของโครงสร้างของพืช เช่น กิ่ง ก้าน เมล็ด นั่นเองค่ะ เมื่อเราทาน ไฟเบอร์ เข้าไป แล้ว พวกไฟเบอร์เหล่านี้ จะเป็นส่วนช่วยในการทำงานของลำไส้ ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้ดี ซึ่งนั่นถือเป็นการดีท็อกซ์อย่างหนึ่งนั่นเองค่ะ ฉะนั้นการทานอาหารที่มีไฟเบอร์มากๆ จะช่วยให้ร่างกายดีท็อกซ์ของเสียออกมาได้มากเช่นกัน ทั้งยังช่วยกวาดสิ่งสกปรกออกจากลำไส้ รวมถึงไขมันและกากอาหารที่ตกค้างออกมาได้ดีด้วย และนอกจากการดีท็อกซ์แล้วไฟเบอร์ยังช่วยป้องกันโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย!

ซึ่งปัจจุบัน ก็ได้มี ไฟเบอร์ดีท็อก ในรูปแบบอาหารเสริม ที่ทานง่ายและสะดวกต่อคนยุคใหม่ออกมามากขึ้น เพื่อที่ช่วยกระตุ้นการขับของเสียที่อยู่ภายในลำไส้ออกมาได้โดยไม่ต้องพึ่งไปทำดีท็อกถึงโรงพยายาบาลเลย เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาถ่ายยาก ท้องผูกเรื้อรัง ถ่ายไม่เป็นเวลา หรือรวมไปถึงคนไม่เคยดีท็อกลำไส้มาก่อนเลย แต่ใครที่กำลังหาไฟเบอร์ดีท็อกอยู่ล่ะ ควรเลือกไฟเบอร์ดีท็อกที่ปลอดภัย ตรงตามมาตรฐานของอย. กำหนดไว้ด้วยนะคะ

ลักษณะแบบไหนที่ต้องทาน “ไฟเบอร์ดีท็อก” ??

อย่างที่ได้บอกไปตั้งแต่ต้นว่า ไม่ใช่คนที่อยู่ในภาวะท้องผูก หรือมีปัญหาในการขับถ่าย (5 วิธีแก้อาการท้องผูกมาก) เท่านั้น คนที่ไม่เคยดีท็อกลำไส้มาก่อนก็อาจจะมีภาวะเสี่ยงที่จะมีสิ่งตกค้างในลำไส้เราได้ เช่นกัน ดังนั้น ลองมาเช็กพฤติกรรมคนที่เข้าข่ายควรที่จะต้องหาไฟเบอร์ดีท็อกมาทาน หากมีพฤติกรรมเสี่ยงแบบนี้อยู่ต้องหา ไฟเบอร์ดีท็อกมาทานกันบ้างแล้วล่ะค่ะ

ไม่ทานผัก ผลไม้เลย

คนที่ไม่ชอบทานผัก ผลไม้ เนี่ยแหละค่ะ เข้าข่ายเลยแหละ เพราะพวกใยอาหารผัก ผลไม้รวมถึงพวกธัญพืชไม่ขัดสี มีความสำคัญต่อระบบทางเดินอาหารในร่างกาย โดยทำหน้าที่เก็บกวาดเศษอาหารภายในลำไส้ ช่วยให้อุจจาระจับตัวเป็นก้อนและง่ายต่อการขับถ่าย แต่ด้วยกิจวัตรเราอาจจะทำให้เราเลี่ยงไม่ได้ อาจจะทำให้เราทานแต่ข้าวขัดขาว ขนมกรุบกรอบ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และอาหารอื่นๆ ที่ไม่มีพวกไฟเบอร์ดีท็อกเลย มีความเสี่ยงที่มีอาการขับถ่ายยาก หรือรวมไปถึงโรคท้องผูกได้

ดื่มน้ำน้อย

คนที่ดื่มน้ำน้อย หรือดื่มน้ำไม่เพียงพอ ต้องรู้ไว้เลยว่า น้ำที่เราดื่มเข้าสู่ร่างกาย มีบทบาทสำคัญช่วยให้อุจจาระอ่อนตัวและเคลื่อนออกจากลำไส้ได้ง่ายมากขึ้นด้วยนะ ในวันนึงเราอาจจะทำงานจนลืมดื่มน้ำให้เพียงพอ แถมยังต้องนั่งอยู่ในห้องแอร์ที่มีอากาศแห้ง ส่งผลทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อปริมาณน้ำในร่างกายไม่เพียงพอ ไม่สามารถดูดซึมไปที่ระบบขับถ่ายได้ อุจจาระทำให้จึงแข็ง และขับถ่ายลำบากได้

ภาวะเครียด

แม้ว่า ความเครียด จะเกี่ยวข้องกับระบบประสาท แต่ระบบประสาทอัตโนมัติเนี่ยแหละค่ะ ก็เป็นตัวที่ทำงานควบคุมอวัยวะภายในร่างกายรวมไปถึงระบบขับถ่ายด้วย ดังนั้นจะเห็นได้ว่า คนที่มีอาการเครียดและประสบกับภาวะเครียดเป็นประจำ มักจะมีปัญหาร่วมกับ โรคท้องผูกเรื้อรัง ด้วย

กลั้นอุจจาระบ่อยๆ

วิถีชีวิตที่เร่งรีบอาจจะทำให้เราไม่มีเวลาขับถ่ายได้เป็นระบบมากนัก ส่งผลทำให้ร่างกายไม่สามารถขับถ่ายได้อย่างถูกวิธี พอเมื่อถึงเวลาที่ร่างกายต้องการขับถ่ายออก ดันขับถ่ายไม่ได้ และหากเป็นเช่นนี้ รวมไปถึงการกลั้นอุจจาระบ่อยๆ ครั้งเข้า อาจจะทำให้เส้นประสาทรอบทวารหนักอาจเกิดอาการชินชา เมื่อมีอุจจาระมากระตุ้นก็ไม่ส่งสัญญาณให้เราการขับถ่าย ส่งผลทำให้กลายเป็นโรคท้องผูกเรื้อรังได้นั่นเองค่ะ

ทานยาระบายเป็นประจำ

ยาระบายมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ช่วยให้ขับถ่ายสะดวกเหมือน ไฟเบอร์ดีท็อก ก็จริง แต่หากเมื่อเราใช้ยาระบายเพื่อเป็นทางออกในการขับถ่ายเป็นประจำ ก็อาจทำให้ลำไส้คุ้นชินต่อการกระตุ้น และเมื่อหยุดใช้ ลำไส้จะไม่สามารถขับถ่ายตามปกติ และจำเป็นต้องใช้ยาทุกครั้งเพื่อกระตุ้นให้ขับถ่าย และนานไปอาจจะส่งผลให้ดื้อยาได้นั่นเองค่ะ

ไฟเบอร์ดีท็อก ของดีต้องบอกต่อ

เข้าข่าย ต้องหาไฟเบอร์มาทานกันหลายคนเลยใช่มั้ยคะ รู้แบบนี้แล้วจะอยู่เฉยนิ่งนอนใจไม่ได้แล้ว ต้องหาไฟเบอร์ดีท็อกมาช่วยขับของเสียออกไปแล้วล่ะค่ะ และสำหรับใครที่มองหา ไฟเบอร์ดีท็อกลำไส้ดีๆ สักตัว รอบนี้เราก็มีมาแนะนำบอกต่อกันให้ด้วย

ไฟเบอร์ดีท็อก ‘ HOLISTA Probiotic Fiber Detox ’ ของดีต้องบอกต่อ

ไฟเบอร์ดีท็อก_ดีท็อกHolista_FiberDetox
ไฟเบอร์ดีท็อก_ดีท็อกHolista_FiberDetox

ที่สะสมภายในร่างกายไปพร้อมๆ ปรับสมดุลระบบภายในร่างกายให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

และนี่ก็คือ ไฟเบอร์ดีท็อกลำไส้ ‘ HOLISTA Probiotic Fiber Detox ’ ที่เราอยากมาบอกต่อให้ทุกคนได้รู้จักกัน ที่แนะนำตัวนี้ก็เพราะเค้ามีผลวิจัยรับรองส่วนผสมจาก Wageningen Academic Publishers จากประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าส่วนผสมต่างๆ ที่สกัดจากธรรมชาติ 100% และมี อย. รับรองอย่างถูกต้องแถมยังผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากลแล้วอีกด้วย แถมมีวางขายตามร้านขายแนะนำทั่วไป มั่นใจหายห่วงได้เลย และสามารถช่วยดีท็อกลำไส้ ล้างสารพิษต่างๆ ที่สะสมภายในร่างกายไปพร้อมๆปรับสมดุลระบบภายในร่างกายให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพจริง

ส่วนผสมคุณภาพในไฟเบอร์ดีท็อก HOLISTA Probiotic Fiber Detox

ไฟเบอร์ดีท็อก แนะนำ > HOLISTA Probiotic Fiber Detox

นอกจากเรื่องความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานแล้วนั้น ‘ HOLISTA Probiotic ไฟเบอร์ดีท็อก (สูตรดีท็อกลำไส้) เค้ายังมี ส่วนผสมที่แน่นไปด้วยสรรพคุณที่ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย และชำระล้างสารสิ่งตกค้างในสำไส้ อยู่เยอะมากเลยทีเดียวค่ะไม่ว่าจะเป็น Probiotic จุลินทรีย์นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ที่ช่วยในเรื่องการฟื้นฟูระบบขับถ่ายและปรับสมดุลลำไส้ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เค้ายังผสาน สารสกัดสำคัญจากธรรมชาติ เช่น ทับทิม, เมลอน, อโซโรล่า เชอร์รี่, แครนเบอร์รี่, เมล็ดองุ่น, ชาเขียว, Co Q10, L-Glutathione และ Pine Bark รวมๆ แล้วมีสารสกัดพรีเมี่ยมที่อัดแน่นกันมากว่า 20 ชนิด ที่เข้ามาช่วยระบบขับถ่ายทั้งนั้นเลยค่ะ

 

ไฟเบอร์ดีท็อก_ดีท็อกHolista_FiberDetox_Probiotic
ไฟเบอร์ดีท็อก_ดีท็อกHolista_FiberDetox_Probiotic

เป็นยังไงบ้างคะ ข้อมูลความรู้ดีๆ เกี่ยวกับ ไฟเบอร์ และบอกต่อ ไฟเบอร์ดีท็อก ของดีพรีเมี่ยมที่เราเอามาแนะนำจากแบรนด์ HOLISTA รอบนี้ บอกเลยว่าของดีๆ แบบนี้ต้องมีไว้ติดไว้ซักคนละสองสามกล่องแล้วแหละค่ะว่ามั้ยคะ? อย่างที่บอกว่า ระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่ายเป็นองค์ประกอบที่ส่งผลต่อสุขภาพของเราโดยตรง อย่ารอให้ร่างกายแจ้งเตือนความผิดปกติออกมาก่อนที่จะสายเกินแก้ และอย่าปล่อยให้ความเคยชินและความละเลย ทำร้ายสุขภาพที่มีค่าของเราไป ปัญหาเล็กๆ ที่ทุกคนมองข้าม อาจจะทำลายชีวิตเราลงไปด้วยตัวเองเรา เริ่มใส่ใจสุขภาพตั้งแต่วันนี้ จะไม่มีคำว่า สายเกินแก้ แน่นอนค่ะ