โฮลิสต้า (ประเทศไทย) | HOLISTA

ทำไมต้อง ดีท็อกล้างลำไส้? ตอบทุกคำถามแบบเคลียร์ๆ

ดีท็อกล้างลำไส้_Holista
ภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay

ปกติร่างกายของคนเรานั้นมีการขับถ่ายและกำจัดของเสียตามธรรมชาติอยู่แล้วค่ะ แต่จะมีบางช่วง บางจังหวะชีวิต ที่จู่ๆ ท้องไส้ก็เกิดรู้สึกอึดอัด อยากขับมันออกไปจากร่างกาย แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะร่างกายอาจได้รับสารพิษมากเกินไป หรือมีของเสียคั่งค้างและกำจัดได้ไม่หมด ซึ่งเป็นผลเสียต่อร่างกายของเรามากๆ ไม่ใช่แค่อึดอัดไม่สบายตัว แต่ยังส่งผลต่อผิวพรรณของเรา ทำให้ผิวพรรณดูไม่สดใส ไม่มีชีวิตชีวาตามไปด้วย ฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการขับของเสียออกจากร่างกายคือ การ “ดีท็อกล้างลำไส้” นั่นเอง

การดีท็อกล้างลำไส้ หรือ Detoxification นั้นแท้จริงแล้วความหมายของมันก็คือ การขจัดสารพิษและสิ่งแปลกปลอมออกไปจากร่างกายของเรา โดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ นั่นเองค่ะ หลายคนอาจจะเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเราจะต้องดีท็อกล้างลำไส้ด้วย แล้วมันดีหรือไม่ดียังไง วันนี้เราจะมาตอบทุกๆ คำถามกัน เพราะฉะนั้นเราไปทำความเข้าใจเรื่องการดีท็อกล้างลำไส้กันเลยดีกว่า

ทำไมต้องดีท็อกล้างลำไส้

การที่ต้องดีท็อกล้างลำไส้ก็เพื่อทำความสะอาดและขจัดสิ่งสกปรก ของเสีย รวมทั้งสารพิษที่ตกค้างในลำไส้ออกไป เวลาที่ของเสียต่างๆ ถูกกำจัดออกไปไม่หมด อาจส่งผลร้ายต่อร่างกายได้นะ เรื่องของท้องผูกเกิดขึ้นแน่นอนอยู่แล้ว แต่มันอาจจะไม่ได้จบแค่ท้องผูก บางครั้งอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่านั้น เช่น โรคเกี่ยวกับลำไส้ ทั้งร้ายแรงและไม่ร้ายแรง ปัญหากลิ่นปาก กลิ่นตัว รวมไปถึงปัญหาผิวพรรณด้วย ฉะนั้นการดีท็อกลำไส้ จึงเป็นทางออกที่ดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเรามากๆ ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาท้องผูกอย่างเดียว แต่ยังช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ตับ ถุงน้ำดี ไต ตับอ่อน และต่อมน้ำเหลือง รวมไปถึงส่วนอื่นๆ ในร่างกายของเราอีกด้วยค่ะ

ดีท็อกล้างลำไส้ จำเป็นหรือไม่ มีประโยชน์ต่อร่างกายจริงหรือ ?

บางคนอาจสงสัยว่าการดีท็อกลำไส้นั้นมีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด ในความเป็นจริงแล้ว ร่างกายของคนเราสามารถกำจัดสารตกค้างและสารพิษบางอย่างได้ เช่น สารอนุมูลอิสระ เป็นต้น อีกทั้งโดยทั่วไปคนสามารถลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ โดยเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม ออกกำลังกายเป็นประจำ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

ดีท็อกล้างลำไส้ จำเป็นรึเปล่า ?

บางคนอาจจะมีความสงสัยว่า ทำไมเราจะต้องดีท็อกลำไส้กันด้วย มีความจำเป็นขนาดไหน วันนี้เรามาหาคำตอบกันว่าจริงๆ แล้วการดีท็อกนั้น จำเป็นต่อร่างกายของเราหรือไม่

ในความเป็นจริงแล้ว ร่างกายของเราสามารถขับหรือขจัดสารพิษที่ตกค้างบางอย่างออกไปจากร่างกายได้ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด ดังนั้นการดีท็อกลำไส้จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ที่หลายๆ คนนิยมหยิบมาใช้กัน เพราะเชื่อกันว่าอาจช่วยทำความสะอาดสารพิษที่เกาะอยู่บริเวณผนังลำไส้, ช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดีขึ้น, ช่วยทำให้อารมณ์ดี มีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น, ช่วยลดน้ำหนัก, ตลอดจนอาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งลำไส้ได้ เป็นต้น แต่ก็ยังไม่ได้มีการยืนยันออกมาว่าวิธีนี้มีความจำเป็นขนาดไหน แม้จะมีผลดี แต่ก็มีผลเสียเช่นเดียวกัน ฉะนั้นควรศึกษาข้อมูลให้ดีๆ ก่อนนะคะ

ข้อควรระวังในการดีท็อกล้างลำไส้

อย่างที่ว่าไว้ข้างต้น การทำดีท็อกควรศึกษาข้อมูลก่อนทุกครั้ง ถ้าไม่แน่ใจ อย่าลองเอง ให้ปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สอบถามข้อมูลต่างๆ ให้ดีๆ สำหรับใครที่ซื้อยาหรืออาหารเสริมมาทานเอง แนะนำว่าอย่าเชื่อรีวิวเพียงอย่างเดียว ควรตรวจสอบเลขที่ใบจดแจ้ง สรรพคุณ ส่วนประกอบ และรายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วน เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองด้วยนะคะ สำหรับคนที่อยากจะดีท็อกแบบพึ่งพาแพทย์ แนะนำว่าให้เลือกสถานประกอบการที่มีเจ้าหน้าที่ที่น่าเชื่อถือ ทั้งต้องมีการใช้อุปกรณ์ที่สะอาดและไม่นำอุปกรณ์นั้นมาใช้ซ้ำ อย่างไรก็ตาม การหาข้อมูลของทั้งโรพยาบาลและอาหารเสริมหรือยาต่างๆ ก็เป็นส่วนที่สำคัญมากๆ ฉะนั้นจะละเลยไม่ได้โดยเด็ดขาดนะคะ

ข้อดีของการดีท็อกล้างลำไส้

ดีท็อกล้างลำไส้_Holista
ดีท็อกล้างลำไส้อาจไม่จำเป็น แต่ถ้ามีผลดีกับร่างกาย ช่วยเรื่องสุขภาพได้ ก็น่าสนใจใช่มั้ยล่ะ?

แน่นอนว่าการดีท็อกมีผลดีต่อร่างกายค่ะ เพราะถ้าไม่ดี เราคงไม่เลือกใช้วิธีนี้ การดีท็อกเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยกำจัดของเสียและสารพิษที่คั่งค้างภายในลำไส้ ทั้งยังช่วยปรับสมดุลร่างกาย ฟื้นฟูระบบต่างๆ กระตุ้นการขับถ่าย แก้อาการท้องผูกได้อย่างดีเยี่ยม

นอกจากนี้การดีท็อกยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการเผาผลาญของร่างกาย เชื่อว่าช่วยให้รูปร่างของเราดีขึ้น สามารถลดพุงได้ แถมยังช่วยให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่งขึ้นอีกด้วย ใครที่มีปัญหาสิว ผิวไม่สดใส แนะนำให้ลองดีท็อกล้างลำไส้สักครั้ง ช่วยได้เยอะจริงๆ ค่ะ

ดีท็อกล้างลำไส้มีประโยชน์อะไรบ้าง

ดีท็อกล้างลำไส้_Holista
ใครเป็นสายกินดึก การดีท็อกล้างลำไส้ช่วยได้นะ

การดีท็อกล้างลำไส้เรียกว่าเป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดีที่เราสามารถทำได้ตามแนวทางธรรมชาติค่ะ ซึ่งการดีท็อกล้างลำไส้จะช่วยทำความสะอาดลำไส้และแบคทีเรียที่เป็นโทษต่อร่างกาย ลดการสะสมสารพิษและเมื่อสารพิษต่าง ๆ ถูกชะล้างออกไป ลำไส้ก็จะทำงานได้ตามปกติ ทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่นขึ้น ถ้าเราไม่ดีท็อกลำไส้เลย การที่มีของเสียไปตกค้างที่ลำไส้มากๆ อาจจะส่งผลให้ลำไส้อ่อนแอ ฉะนั้นเมื่อมีการดีท็อกล้างลำไส้แล้วจะช่วยให้กล้ามเนื้อลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น กำจัดของเสียได้มากขึ้น ทำให้ไม่มีสารพิษตกค้างในลำไส้นั่นเอง

นอกจากนี้การดีท็อกยังช่วยให้ลำไส้ของเรากลับมามีขนาดที่ปกติดังเดิม เพราะถ้ามีของเสียอุดตันในลำไส้ จะทำให้ลำไส้ทำงานผิดปกติและจะทำให้รูปร่างของลำไส้เปลี่ยนแปลงไป เช่น มีอาการบวมหรือโป่ง แต่เมื่อเราทำการล้างลำไส้เอาสารพิษออกไป ก็จะช่วยให้รูปร่างของลำไส้กลับมาเป็นปกติตามธรรมชาติ ส่งผลให้ระบบการทำงานในร่างกายดีขึ้นตามไปด้วยนั่นเองค่ะ
อย่างไรก็ตาม ตามหลักกลไลของร่างกายมนุษย์เราจะมีการกำจัดของเสียอยู่แล้ว ดังนั้นจริงๆ แล้วการดีท็อกล้างลำไส้จึงไม่ได้จำเป็นที่ต้องทำตลอดค่ะ ลองเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ อาหารไขมันต่ำ หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปไว้เป็นพื้นฐานก่อน ส่วนการดีท็อกล้างลำไส้นั้น หากทำเพื่อแก้อาการท้องผูก ทำให้ลำไส้กลับมาทำงานได้ตามปกติและให้ร่างกายมีความสดชื่นมากขึ้นก็ควรจะทำทุก 1 เดือนจนกว่าอาการจะดีขึ้นค่ะ

อันตรายจากการดีท็อกล้างลำไส้

อย่างที่กล่าวไปในตอนแรกค่ะว่าการดีท็อกนั้นเป็นกระบวนการตามธรรมชาติอยู่แล้ว ดังนั้นหากคุณเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงเป็นทุนเดิมก็ไม่ต้องมีความกังวลว่าจะเกิดผลเสียอะไร รวมถึงไม่มีการสูญเสียเกลือแร่ที่เกิดจากการดีท็อกด้วย เนื่องจากร่างกายได้ทำการดูดซึมน้ำและเกลือแร่เอาไว้แล้ว สิ่งที่ถูกขับออกมาคืออุจจาระนั้นจึงเป็นเพียงของเสียที่ร่างกายจะขับออกมาตามกระบวนการ และไม่มีผลต่ออาการอ่อนเพลียแต่อย่างใด สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติหลังจากทำการดีท็อกล้างลำไส้แล้วค่ะ

อย่างไรก็ตามการดีท็อกนั้นใช่ว่าจะมีแต่ผลดีเท่านั้น หากเราทำบ่อยเกินไปหรือทำอย่างไม่ถูกวิธี ก็อาจส่งผลเสียให้กับร่างกายได้เช่นกันค่ะ ยกตัวอย่างเช่น อาจจะทำให้ร่างกายเสียน้ำและแร่ธาตุหรือเสี่ยงต่อการได้รับพลังงานและสารอาหารไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดอาการหน้ามืด อ่อนเพลีย หมดแรงและเป็นลมได้ ไปจนถึงขั้นที่ว่าระบบขับถ่ายแปรปรวนและไม่สามารถทำงานได้เองตามปกติ ต้องพึ่งแต่การดีท็อกอย่างเดียวเท่านั้น ฉะนั้นควรดีท็อกซ์ให้ถูกวิธีและอย่าคิดว่าการดีท็อกคือการลดน้ำหนัก เพราะอาจจะเสี่ยงต่อสุขภาพร่างกายของเราได้นะคะ

ประเภทของการดีท็อกล้างลำไส้

จริงๆ แล้ววิธีการดีท็อกล้างลำไส้นั้นมีอยู่หลายวิธีค่ะ ซึ่งในเบื้องต้นคุณสามารถปรับได้จากพฤติกรรมของตัวคุณเอง ไม่ว่าจะการกิน การออกกำลังกาย การดื่มน้ำ เป็นต้น แต่ถ้าวันนี้คุณเกิดอาการท้องผูกหรืออึดอัดท้องไส้ล่ะก็ การดีท็อกล้างลำไส้ก็ถือเป็นวิธีที่จำเป็นวิธีหนึ่งเลยค่ะ ซึ่งจริงๆ แล้วการดีท็อกนี้ก็มีหลายประเภทเลยทีเดียว เราลองไปดูประเภทของการดีท็อกกันหน่อยดีกว่า จะมีวิธีแบบไหนบ้าง ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ

การดีท็อกล้างลำไส้โดยการกิน : เป็นการใช้การกินในการแก้ปัญหา คือการเลือกกินอาหารที่สดใหม่ ไม่มีสารเคมีและสารพิษตกค้าง ทั้งยังไม่ผ่านกรรมวิธีการขัดสีหรือหมักดอง วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญและระบบขับถ่ายให้เร่งนำสารตกค้างที่ไม่ดีออกมาและรับสารอาหารที่ดีเข้าไปทดแทน

การดีท็อกล้างลำไส้โดยการสวนลำไส้ : ว่ากันว่าเป็นวิธีที่นิยมทำกันมากที่สุด เพราะเชื่อว่าเป็นการนำของเสียที่ตกค้างในลำไส้ออกมาอย่างรวดเร็วและทำให้ลำไส้สะอาด นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ป้องกันท้องผูกได้ด้วย แต่วิธีนี้จะต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นนะคะ ไม่งั้นอาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตได้

การดีท็อกล้างลำไส้โดยการอดอาหาร : วิธีนี้จะช่วยพักระบบการย่อยอาหาร ทั้งยังช่วยลดการสะสมของเสียในลำไส้ด้วย ซึ่งการอดอาหารอาจจะใช้เวลาเพียงแค่ 1 – 2 วัน ให้ดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้เท่านั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นการขับถ่ายของเสียออกมา

การดูแลสุขภาพโดยไม่พึ่งดีท็อกล้างลำไส้

ดีท็อกล้างลำไส้_Holista
ดีท็อกล้างลำไส้ไม่ได้น่ากลัว แต่ง่ายกว่าที่คิดเยอะ

จริงๆ แล้วพอได้ยินคำว่า ดีท็อกล้างลำไส้ หลายๆ คนอาจจะถึงขั้นกลัวหรือกังวลใจไปต่างๆ นานา นึกภาพไม่ออกว่าจะออกมาท่าไหนยังไง หรือจะเจ็บจะทรมานมั้ย ขอบอกเลยว่าไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะจริงๆ แล้วคุณสามารถดูแลสุขภาพลำไส้ของตัวเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งการดีท็อกด้วยซ้ำ และเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพลำไส้อย่างท้องเสีย ท้องอืด หรือท้องผูก วิธีที่ดีที่สุดคือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารของตัวคุณเอง ลองเลือกทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายมากขึ้น วิธีนี้จะช่วยทำความสะอาดลำไส้ กระตุ้นให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นและกำจัดของเสียออกไปจากร่างกายได้ เพียงแค่รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อแดงในปริมาณมากเกินไป ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และสุดท้าย สำคัญมากๆ คุณควรลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ด้วยนะคะ

อย่างไรก็ตามหากกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกายเรายังไม่เพียงพอ อีกหนึ่งทางเลือกที่เป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดที่เราอยากแนะนำก็คือ HOLISTA Rebalance นั่นเองค่ะ

ดีท็อกล้างลำไส้_Holista
ดีท็อกล้างลำไส้ ทำไมต้อง Holista ?

Holista Rebalance คือ นวัตกรรม Health & Beauty Detox ที่นำเข้าจาก USA ที่รวม Probiotic (โปรไบโอติกส์) + Prebiotic (พรีไบโอติกส์) และ Plant Enzyme เข้าไว้ด้วยกัน โดยตัวนี้จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการช่วยแก้อาการท้องผูกแบบลงลึกถึงต้นตอของปัญหา โดยจะช่วยให้อุจจาระนุ่มขึ้น ขับถ่ายง่าย และโล่งสบายท้อง และปรับสมดุลลำไส้ได้อย่างเป็นธรรมชาติค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูระบบขับถ่ายได้อย่างดีเลิศ อีกทั้งยังช่วยขับล้างสารพิษที่ตกค้างในลำไส้ ในเลือด และในตับ ช่วยปรับสมดุลลำไส้อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้แล้วยังช่วยในเรื่องของการเผาผลาญและช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง แลดูอ่อนเยาว์ขึ้นด้วยค่ะ

HOLISTA Rebalance ถือว่าเป็นวิธีที่ง่ายและสามารถเข้าถึงทุกๆ คนได้ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สามารถช่วยเรื่องท้องผูกได้โดยตรง ทั้งยังช่วยปรับสมดุลลำไส้ ฟื้นฟูระบบย่อยอาหารและล้างสารพิษในร่างกาย ช่วยลดแก๊สในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการกรดไหลย้อน ช่วยให้เลือดไหลเวียนดียิ่งขึ้น และที่สำคัญเชื่อว่าข้อนี้น่าจะถูกใจผู้หญิงหลายๆ คนเลย นั่นก็คือเขาสามารถช่วย Block แป้ง และ ไขมันในร่างกายของเราได้ แถมยังช่วยในเรื่องของการควบคุมน้ำหนักด้วย คุณสามารถดื่มแทนมื้ออาหารเย็นได้เลย และสุดท้ายโฮลิสต้ายังช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส แลดูอ่อนเยาว์ ดีท็อกล้างลำไส้ด้วยสิ่งนี้ มีแต่สิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นกับสุขภาพของเราค่ะ

ดีท็อกล้างลำไส้_Holista
เขามีสารสกัดสำคัญถึง 9 ชนิด คือ ทับทิม เมลอน อโซโรล่า เชอร์รี่ แครนเบอร์รี่ เมล็ดองุ่น ชาเขียว Co Q10, L-Glutathione และ Pine Bark แต่ละชนิด ดีต่อลำไส้ของเราทั้งนั้นเลยค่ะ

ในส่วนของความปลอดภัยนั้นขอบอกเลยว่าปลอดภัยแน่นอนค่ะ เพราะอาหารเสริมตัวนี้มีส่วนผสมสกัดจากธรรมชาติ 100% อีกทั้งยังมีผลวิจัยรับรองส่วนผสม จาก Wageningen Academic Publishers ที่สหรัฐอเมริกาด้วย ผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก อย. อย่างถูกต้อง และผ่านมาตรฐาน GMP และ HACCP ระดับสากล ที่สำคัญคือในเรื่องของรสชาติค่ะ เพราะตัวนี้มีรสอร่อย ดื่มง่าย ไม่ทำให้ปวดบิด คุณสามารถดื่มโฮลิสต้าได้อย่างต่อเนื่องทุกวันโดยไม่มีผลข้างเคียง แต่ยิ่งดื่มต่อเนื่อง ยิ่งช่วยให้รูปร่างดีขึ้นและผิวพรรณดูเปล่งประกายมีออร่าเพิ่มขึ้นด้วยล่ะค่ะ

วิธีทานง่ายมากค่ะ ใน 1 กล่องจะประกอบด้วย HOLISTA 7 ซอง สามารถรับประทานวันละ 1 ซอง ฉีกซองผสมน้ำธรรมดาหรือน้ำเย็นประมาณ 150 – 200 มล. จากนั้นคนให้เข้ากัน แล้วดื่มได้ทันที แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าตามอีก 1 แก้ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของในการทำงาน ควรดื่มก่อนนอน อย่างน้อย 2 ชั่วโมง ช่วงเวลาที่เหมาะสม แนะนำเป็นตอน 20.00 – 22.00 น. เพื่อให้สอดคล้องกับระบบการทำงานของร่างกายค่ะ

ดีท็อกล้างลำไส้_Holista

เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงจะอยากทราบว่า ดื่มไปแล้ว เห็นผลไหม ต้องใช้เวลานานเท่าใดจึงจะเห็นผล สำหรับผลิตภัณฑ์ HOLISTA นั้นคุณจะสามารถเห็นผลเรื่องการขับถ่ายที่ดีขึ้นได้ตั้งแต่ซองแรกที่รับประทานเลยค่ะ โดยผลลัพธ์จะชัดเจนที่สุดในช่วง 2 สัปดาห์หลังรับประทาน โดยแนะนำให้ทานต่อเนื่องจนครบ 4 สัปดาห์ จะทำให้ระบบลำไส้กลับมาทำงานเป็นปกติ ซึ่ง HOLISTA นี้จะแตกต่างจาก Detox ยี่ห้ออื่นๆ ที่มีส่วนผสมของ ยาระบาย หรือ มะขามแขก อาการที่เกิดขึ้นเมื่อหยุดทานจึงกลับมามีอาการท้องผูกมากขึ้นกว่าเดิม

หลังจากปรับสมดุลลำไส้ครบ 1 เดือนแล้ว แนะนำให้ทาน สัปดาห์ละ 1 – 2 ซอง เพื่อรักษาความสมดุลของระบบภายในร่างกายและเพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน สำหรับอาหารเสริมตัวนี้ สามารถดื่มได้อย่างต่อเนื่องทุกวันโดยไม่มีผลข้างเคียงเพราะอย่างที่บอกว่าเค้ามีสารสกัดจากธรรมชาติ 100% เพราะฉะนั้นยิ่งดื่มต่อเนื่อง ยิ่งช่วยให้รูปร่างดีขึ้นและผิวพรรณดูเปล่งประกายมีออร่าเพิ่มขึ้นอีกด้วยค่ะ

แล้ว Holista นี้เหมาะกับใคร? หรือเหมาะกับเฉพาะแค่คนที่มีปัญหาท้องผูกรึเปล่า? ต้องบอกก่อนว่า Holista เหมาะกับคนที่มีปัญหาท้องผูก หรือกรดไหลย้อนจริงๆ แต่คนที่ต้องการล้างสารพิษตกค้างในร่างการและต้องการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ร่วมไปถึงคนที่อยากมีรูปร่างที่สมส่วน อยากมีผิวพรรณที่ดูเปล่งปลั่ง ไม่ว่าใครก็ตามที่อยากดูแลสุขภาพ สามารถดื่มอาหารเสริมตัวนี้ได้ค่ะ แต่สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี สตรีมีครรภ์ คุณแม่ที่ให้นมบุตรและคนที่แพ้กุ้งหรืออาหารทะเลอาจต้องระวัง เนื่องจากเขามีส่วนผสมของไคโตซานค่ะ

อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้หลายๆ คนเกิดความกังวลคือ หากเราหยุดดื่มแล้ว จะกลับมาท้องผูกเหมือนเดิมมั้ย บอกตรงนี้เลยว่า มันจะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น เมื่อคุณได้ลองดื่มโฮลิสต้า อาหารเสริมตัวนี้ เขาจะเข้าไปช่วยปรับสมดุลลำไส้ หากเราหยุดดื่มแล้ว จะไม่กลับมาท้องผูกเหมือนเดิม เนื่องจากมีจุลินทรีย์ที่ช่วยในการฟื้นฟูระบบลำไส้ เมื่อทานอย่างต่อเนื่องการทำงานของลำไส้จะฟื้นตัวดีขึ้น ระบบขับถ่ายจะกลับมาเป็นปกติ ซึ่งต่างจาก Detox ทั่วไปที่มีส่วนผสมของยาระบาย หรือ มะขามแขก ที่เข้าไปกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวและทำให้ระบบขับถ่ายเสียสมดุล เมื่อหยุดก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรืออาจจะหนักกว่าเดิม แต่โอสลิสต้าจะไม่เป็นอย่างนั้น เพราะเขาจะช่วยให้เราขับถ่ายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ใช่ถ่ายหลายๆ รอบเหมือนคนท้องเสีย แถมอุจจาระที่ออกมายังมีลักษณะนุ่มฟูและมีมวล บ่งบอกถึงสุขภาพลำไส้ที่ดีอีกด้วยค่ะ

ดีท็อกล้างลำไส้_Holista

และนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมเราจะต้องดีท็อกล้างลำไส้ หยิบมาฝากทั้งข้อดีข้อเสียและวิธีดีๆ มากมาย พร้อมทั้งตัวช่วยที่เรียกได้ว่าเป็นคู่หูกู้ระบบย่อยที่คนท้องผูกต้องมี ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อหลายๆ คน อย่าลืมว่าเรื่องของสุขภาพละเลยไม่ได้เลยนะ หันมาดูแลตัวเองสักนิด ชีวิตจะได้แฮปปี้ บวกกับตัวช่วยดีๆ สักตัวนึง เท่านี้ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวลแล้วค่ะ

ลองดูอีกซักหน่อย 10 อาหารแก้ท้องผูก ช่วยดีท็อกล้างลำไส้ได้อย่างอยู่หมัด